รีเซต

ผู้ปกครองร้อง 'ลูก-เพื่อน' เข้าค่าย ถูกเด็กต่างร.ร. รุม ทั้ง 'มีด-ไม้-เหล็ก' มาพร้อม

ผู้ปกครองร้อง 'ลูก-เพื่อน' เข้าค่าย ถูกเด็กต่างร.ร. รุม ทั้ง 'มีด-ไม้-เหล็ก' มาพร้อม
มติชน
28 ธันวาคม 2565 ( 19:47 )
52

ผู้ปกครองร้อง ‘ลูก-เพื่อน’ เข้าค่าย ถูกเด็กต่างร.ร. รุม ทั้ง ‘มีด-ไม้-เหล็ก’ มาพร้อม จี้โรงเรียนรับผิดชอบ

 

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ที่จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากนายสำรวล พรหมสะอาดและผู้ปกครองเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในต.หนองเหล็ก อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ว่าต้องการให้สื่อช่วยนำเสนอข่าวหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม ทางโรงเรียนได้นำเด็กนักเรียนไปเข้าค่ายลูกเสือ อยู่ที่ตำบลเมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ แล้วถูกกลุ่มนักเรียนจากจ.บุรีรัมย์ ที่มาเข้าค่ายด้วยเช่นกัน รุมทำร้ายแบบ 20 ต่อ 7 คน ระหว่างพักเที่ยง แถมมีอาวุธ ทั้งมีด เหล็ก และไม้ หวังจะเอาให้ตาย ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

 

โดย 1 ใน 7 คนนั้น ถูกไม้ตีเข้าที่กกหู ครูต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลให้หมอเอกซเรย์สมอง โชคดีที่สมองไม่เป็นอะไร หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งผอ.โรงเรียน และครู ไม่เคยมาสอบถามอาการหรือพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่บ้านก็อยู่ติดกับโรงเรียน ที่ต้องการให้สื่อนำเสนอเรื่องนี้ก็เพื่อต้องการให้ทั้งทางโรงเรียนและค่ายลูกเสือ มีมาตรการในการดูแลเด็กให้มีความปลอดภัยมากกว่านี้ ไม่อยากให้เป็นเรื่องวัวหายแล้วล้อมคอก เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ทำไมเด็กถึงมีอาวุธมีดไปเข้าค่ายได้ ถ้าเกิดเด็กตายจะรับผิดชอบไหวหรือ

 

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายสำรวล อายุ 65 ปี และพบกับผู้ปกครองนักเรียนชายที่ถูกทำร้าย พร้อมทั้งตัวนักเรียนด้วย โดยเป็นนักเรียนในระดับชั้นมัธยมปีที่ 1-3 โดยได้เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยครูได้นำนักเรียนไปเข้าค่ายลูกเสือที่ค่ายไพรวิจิตร ขณะนั้นมีนักเรียนจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.บุรีรัมย์ มาเข้าค่ายดัวย ในตอนแรกเมื่อเจอกันก็มีนักเรียนจากโรงเรียนดังกล่าวตะโกนเข้ามาและเกิดการท้าทายกันขึ้น จากนั้นในช่วงเที่ยงวัน ขณะที่พักในห้องพักก็ได้มีกลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนดังกล่าวประมาณ 20 กว่าคน เข้ามาและดึงเพื่อนของตนออกไปรุมทำร้าย พวกตนจึงได้เข้าไปช่วย จนเกิดการตะลุมบอนกันขึ้น ซึ่งอีกฝ่ายมีทั้งท่อนไม้ มีดพกสั้น และช้อนส้อมที่แหลมกับเหล็ก เข้ามาทำร้ายพวกตน ตนถูกตีด้วยท่อนไม้อย่างแรงระหว่างกกหูกับศีรษะ และได้รับบาดเจ็บที่นิ้วมือด้วย ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน และแยกย้ายกันไป โดยขณะเกิดเหตุ ไม่มีเจ้าหน้าที่ของค่าย ครู อยู่ตรงนั้น

 

หลังเกิดเหตุได้ไปหาครูและครูได้พาไปให้หมอที่โรงบาลเอกซเรย์สมองดู แต่ไม่เป็นอะไร ก่อนพามาส่งบ้าน และครูได้พาเด็กทั้งหมดกลับมาบ้านเลย จากเดิมจะเข้าค่ายคืนหนึ่ง จากนั้นทุกอย่างก็เงียบไปเลย ไม่มีใครถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีกเลย และจากการสอบถามเด็กนักเรียนเพิ่มเติม บอกว่ามีการเอามีดมาจี้ด้วย ก่อนที่จะลากออกไปรุมตีข้างนอก และลักษณะท่าทางเหมือนเมาอะไรมาสักอย่าง นอกจากนี้ยังทราบว่ากลุ่มนั้นเคยไปทำแบบนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่รู้ที่ไหน

นายสำรวล ตาของเด็กชายบี (นามสมมุติ) บอกว่า เวลาลูกหลานไปแบบนี้เราก็ฝากชีวิตไว้กับคุณครู และฝากชีวิตไว้กับค่าย แต่เด็กโดนตีในห้องมันเสียความรู้สึก เพราะสถานที่ตรงนั้นเป็นค่ายใหญ่ ระดับจังหวัดระดับประเทศ แต่ละโรงเรียนให้ความไว้วางใจ แต่เมื่อเด็กไปแล้วความปลอดภัยไม่มีเลย อยากให้ค่ายมีมาตรการให้ดีกว่านี้หน่อย ดีที่เด็กป้องกันตัวเองได้ถ้าป้องกันตัวเองไม่ได้ก็ต้องขนเป็นศพมา แล้วทางโรงเรียนก็ไม่ได้ใส่ใจสนใจเด็กที่โดนและบาดเจ็บมา มาครั้งเดียวตอนที่พาเด็กกลับจากโรงพยาบาลมาส่งที่บ้านแล้วก็มาขอโทษ มาขอโทษแค่นั้นแล้วก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย บอกแค่ว่าเด็กมันทะเลาะวิวาทกัน ทางผอ.โรงเรียนก็เงียบ ขนาดเด็กไปโรงเรียน ผอ.ยังไม่ถามเด็กเลยว่าเป็นอย่างไร แล้วอย่างค่ายก็ต้องมีมาตรการป้องกันชีวิตเด็ก

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เข้าไปโรงเรียนเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผอ.โรงเรียน โดยทางครูแจ้งว่า ผอ.ไปราชการ จากการสอบถามครู ก็บ่ายเบี่ยงให้ข้อมูล บอกเพียงแต่ว่าได้ไปพูดคุยกับทางผู้ปกครองเด็กแล้ว และไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เรื่องนี้ให้ไปสอบถามกับทาง ผอ.โรงเรียนเอง และเมื่อผู้สื่อข่าวขอเบอร์โทร.ติดต่อผอ.ก็ไม่ยอมให้แต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง