รีเซต

อาหารแบรนด์ "จีน" รุกไทย ดันยอดดีลิเวอรีพุ่งหลายเท่า l การตลาดเงินล้าน

อาหารแบรนด์ "จีน" รุกไทย ดันยอดดีลิเวอรีพุ่งหลายเท่า l การตลาดเงินล้าน
TNN ช่อง16
15 เมษายน 2568 ( 21:02 )
14

คุณ ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai บอกว่า ปี 2568 นี้ บริษัทฯ จะทุ่มงบการตลาด กว่า 300 ล้านบาท เพื่อทำตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ผ่านสื่อโฆษณาซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่สำคัญ ๆ รวมถึงย่านเศรษฐกิจของกรุุงเทพฯ ขณะเดียวกัน จะทำการตลาดดิจิทัลผ่านแคมเปญออนไลน์ทั่วประเทศ ทั้ง บนโซเชียล มีเดีย, อินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติง และดิจิทัล แอดส์ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงของกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับการรีวิวร้านอาหารกันมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีแผนจับมือร่วมกับร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านที่ได้รับรางวัล LINE MAN Wongnai Users’ Choice (ไลน์แมน วงใน ยูสเซอร์ ชอยส์) ในปีนี้ เพื่อออกเมนูพิเศษให้กับผู้บริโภค ให้ได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ จากร้านอาหาร ซึ่งจะมีขายเฉพาะกับ ไลน์ แมน เท่านั้น

สำหรับภาพรวมของธุรกิจร้านอาหาร และ ฟู้ด ดีลิเวอรี คุณยอด มองว่า ในภาพรวมปีนี้ยังเติบโตดี จากแรงการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก โดยตลาดอาหาร คาดว่าจะเติบโตราวร้อยละ 5 ซึ่งมูลค่าตลาดจะอยู่ที่ประมาณ 700,000-800,000 ล้านบาท ส่วน ฟู้ด ดีลิเวอรี จะเติบโตได้ดีกว่าตลาดออฟไลน์ โดยคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 10 ซึ่งมูลค่าตลาดฟู้ด ดีลิเวอรี อยู่ที่ราว 120,000-150,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี จำนวนร้านอาหารเปิดใหม่ในปีนี้ ตัวเลขไตรมาสแรก ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยไตรมาสแรกปีนี้ มีร้านเปิดใหม่จำนวน 19,000 ร้าน  เทียบกับปีที่แล้ว มีจำนวนร้านอาหารเปิดใหม่จำนวน 22,000 ร้าน

แต่ภาพรวมของการเปิดและปิดร้านอาหาร ยังมีตัวเลขใกล้เคียงเดิม โดยเปิดใหม่ 100,000 ร้านต่อปี และจะมีร้านที่ปิดตัวลง (ซึ่งไม่ใช่ร้านเปิดใหม่) จะเปิดตัวลงราว ๆ 100,000 ร้าน เช่นกัน 

ขณะเดียวกัน ร้านอาหารแบรนด์จีนที่รุกธุรกิจเข้ามาในไทย มีการเข้าร่วมในแพลตฟอร์ม ดีลิเวอรี เพิ่มขึ้น ปัจจุบันกับไลน์แมน มีจำนวน 16 แบรนด์ และมีจำนวนสาขารวมมากกว่า 500 สาขา โดยเฉพาะร้าน มี่เสวี่ย ที่มียอดขายผ่านแพลตฟอร์มเติบโตหลายเท่าตัว 

ส่วนไลน์แมน ที่ผ่านมาเติบโตขึ้นต่อเนื่อง และตั้งเป้าปี 2568 นี้จะเติบโตอีกที่ร้อยละ 20 ซึ่งมากกว่าภาพรวมของฟู้ด ดีลิเวอรี โดย ซีอีโอ ไลน์แมน วงใน บอกด้วยว่า จากตัวเลขดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดที่ร้อยละ 55

และบอกด้วยว่า แผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ยังคงเป็นไปตามแผนเดิม โดยปีนี้จะยื่นข้อมูลไฟลิ่ง ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ส่วนจะขายหุ้นเมื่อไหร่ หรือเข้าในตลาดหุ้นช่วงไหน ต้องดูจังหวะที่เหมาะสมอีกครั้งก่อน 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง