COM7ร้านขายยาไฮเทค จำหน่ายอุปกรณ์สุขภาพ

นายสุระ  คณิตทวีกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS จัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อทำธุรกิจร้านขายยา เนื่องด้วยบริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตภายหลังจากรัฐบาลมีนโยบายผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ และส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยร้านขายยาที่จะร่วมกับ BDMS นั้น จะแตกต่างจากร้านขายยาทั่วไป เพราะรูปแบบจะเป็นร้านขายยา และจำหน่ายอุปกรณ์เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสุขภาพด้วย เช่น นาฬิกาตรวจวัดเกี่ยวกับสุขภาพ อย่างแอปเปิ้ลวอทซ์  เครื่องกรองอากาศ เป็นต้น โดยมองว่ามีแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจได้ เพราะปัจจุบันนี้คนจะหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น

ทั้งนี้คาดว่ารูปแบบการดำเนินธุรกิจมีความชัดเจนประมาณครึ่งหลังปีนี้ ซึ่งบริษัทร่วมทุนนี้จะใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 200 ล้านบาท โดยเงินลงทุนจะเป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่ง BDMS ถือหุ้น 60% และ COM7 ถือหุ้น 40% จะดำเนินการภายใต้แบรนด์ใหม่ ซึ่งคาดว่าในครึ่งหลังปีนี้จะเปิดให้บริการได้ประมาณ 2-3แห่ง เพื่อเป็นการทดสอบกระแสการตอบรับ จะใช้เวลาประมาณ 6เดือนถึง 1 ปีว่าเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันบริษัทได้วางเป้าหมายใน 3 ปี จะมีสาขาร้านขายยา จำนวน 50 แห่ง โดยเงินลงทุนต่อสาขาประมาณ 4-10 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดของแต่ละสาขา

COM7 แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้บริษัทย่อยเข้าทำบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นในการร่วมลงทุนกับบริษัท รอยัล บางกอกเฮ็ลธ์แคร์ จำกัด หรือ RBH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BDMS เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ในการประกอบธุรกิจร้านขายยาขนาดใหญ่ ในรูปแบบร้าน Standalone และตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า

**ยังมองหาโอกาสลงทุนเพิ่ม

นายสุระ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมองหาโอกาสที่จะร่วมกับพันธมิตรในการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ โดยมีการศึกษาความเป็นไปได้ที่เหมาะสม ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมาก็ได้ร่วมกับพันธมิตรในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท ล้อทอง จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจผลิต นำเข้า ส่งออก ซื้อขายและจำหน่ายจักรยานยนต์และสินค้าอุตสาหกรรมและอุปโภคบริโภค

ในส่วนของการดำเนินธุรกิจของ COM7 ในปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% จากปีก่อน ซึ่งมีปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโต มาจาก Product Mix และการขยายสาขาเพิ่มขึ้น ซึ่งในปีนี้มีแผนจะขยายสาขาอีก 150 แห่ง เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 ที่มีสาขาอยู่ที่ 1,000 แห่ง

**โบรก มองเชิงบวก

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เชื่อว่าการร่วมทุนระหว่าง COM7 กับ BDMS นี้ จะเป็นโอกาสที่ดีที่จะต่อยอดความสำเร็จ โดยสามารถใช้ความสามารถของ COM7 เช่นความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของที่ดิน ช่องทางการจัดจำหน่าย ระบบการบริหารพื้นที่ เป็นต้น และบริษัทร่วมทุนนี้จะมีข้อได้เปรียบในแง่ของราคายา เพราะสามารถซื้อยาล็อตใหญ่รวมกับ BDMS ได้ มูลค่าเพิ่มต่อหุ้นของ COM7 น่าจะอยู่ที่ 0.6-1.63 บาท หรือ 1.5-4% ของราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ประเมินไว้ที่ 40.89 บาทต่อหุ้น ปัจจุบันนี้แนะนำเพียงถือ  ทั้งนี้มูลค่าตลาดร้านขายยารวมในไทยในปี 2562 อยู่ที่ 3.55 หมื่นล้านบาท และคาดอัตราเติบโตจะอยู่ที่ 5-7% ต่อปี

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะมี Synergy ร่วมกันระหว่าง BDMS ที่มีความชำนาญทางการแพทย์ มีโรงงานผลิตยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ในเครือ ส่วน COM7มีความชำนาญในการบริหารร้านค้าปลีก มีระบบบริหารสินค้าแข็งแกร่ง และมองว่าร้านขายยาที่ร่วมทุนนี้จะเป็นแหล่งรายได้เพิ่มเติมในอนาคตให้กับ BDMS  โดยร้านรูปแบบใหม่นี้จะมีขนาด 300-400 ตารางเมตร ใหญ่กว่าร้าน Save Drug ที่มีขนาด 100 ตารางเมตร ขณะที่สินค้าในร้านรูปแบบใหม่จะครอบคลุมทั้งยาสามัญทั่วไป ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ อุปกรณ์การแพทย์ และ Gadget อุปกรณ์เพื่อสุขภาพต่างๆ โดยเงินลงทุนส่วนของ BDMS ที่ 120ล้านบาท เฟสแรกที่จะเริ่มเปิดสาขาในไตรมาส 4/2565คาดว่าจะเริ่มเห็นผลบวกจากรายได้ธุรกิจใหม่ในปี 2566เป็นต้นไป แนะนำซื้อหุ้น BDMS เป้าหมาย  29.30 บาทต่อหุ้น