รีเซต

ไขปริศนาเนบิลลาทารันทูลา ด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์

ไขปริศนาเนบิลลาทารันทูลา ด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์
TNN ช่อง16
9 กันยายน 2565 ( 10:26 )
102

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2022 ที่ผ่านมา องค์การนาซา (NASA) ได้เผยแพร่ภาพถ่ายใหม่ของเนบิลลาทารันทูลา (Tarantula Nebula) ที่ถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (James Webb Space Telescope) ไม่ว่าจะด้วยกล้องอินฟราเรดช่วงใกล้ (Near-Infrared Camera หรือ NIRCam), สเปกโตรกราฟอินฟราเรดช่วงใกล้ (Near-Infrared Spectrograph หรือ NIRSpec) และเครื่องมืออินฟราเรดช่วงกลาง (Mid-infrared Instrument หรือ MIRI) เมื่อนำมารวมกันจึงได้ภาพเนบิลลาทารันทูลาที่ชัดมากกว่าที่เคย ซึ่งเผยให้เห็นดาวฤกษ์อายุน้อยมวลมากนับพัน

สำหรับเนบิลลาทารันทูลา หรือที่รู้จักในชื่อ 30 โดราดัส (30 Doradus) เป็นเนบิลลาที่อยู่ห่างออกไป 161,000 ปีแสง ในกาแล็กซีเมฆแมคเจลแลนใหญ่ (Large Magellanic Cloud galaxy) ซึ่งเป็นกาแล็กซีเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กาแล็กซีทางช้างเผือก (Milkyway galaxy) ของเรามากที่สุด


ในภาพดังกล่าว ณ บริเวณใจกลางจุดที่ส่องสว่างมีดาวฤกษ์ที่ร้อนแรงที่สุดและมีมวลมากที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมาอยู่ และบริเวณรอบ ๆ เนบิลลามีโปรโตรสตาร์ (Protostar) หรือดาวฤกษ์ก่อนเกิดกระจุกตัวอยู่

โดยในกาแล็กซีทางช้างเผือกของเราก็มีจุดที่มีอัตราการเกิดดาวฤกษ์สูงเช่นกัน แต่ก็ยังไม่เทียบเท่ากับบริเวณเนบิลลาทารันทูลาในกาแล็กซีเมฆแมคเจลแลนใหญ่


ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เนบิลลาทารันทูลากลายเป็นที่สนใจของนักดาราศาสตร์ ก็เพราะมันมีองค์ประกอบทางเคมีคล้ายกับเอกภพในยุคคอสมิค นูน (Cosmic Noon) อยู่ ซึ่งยุคคอสมิค นูนคือยุคที่เอกภพมีอายุเพียงไม่กี่พันล้านปี และการก่อตัวของดาวฤกษ์อยู่ในจุดสูงสุด ดังนั้น ด้วยเหตุนี้จึงอาจเป็นเหตุที่ทำให้เนบิลลาทารันทูลามีอัตราการก่อตัวของดาวฤกษ์สูงมาก


อย่างไรก็ตาม แม้มนุษย์จะทำการศึกษาเอกภพมาเป็นเวลากว่าพันปีแล้ว แต่กระบวนการก่อตัวดาวฤกษ์ยังคงเป็นเรื่องลึกลับอยู่ กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์อาจพามนุษย์ไปไขปริศนาของเอกภพได้ไกลถึงยุคคอสมิค นูนเลยก็ว่าได้


ข้อมูลและภาพจาก www.nasa.gov

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง