GFPTครึ่งหลังเข้าไฮซีซัน ราคาไก่ยืน39-41บาท/กก.

#GFPT #ทันหุ้น – GFPT แย้มแนวโน้มไตรมาส 2/2568 ยังคงทรงตัว QoQ หนุนผลงานครึ่งปีแรกโตต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งปีหลังเข้าไฮซีซัน ประเมินทิศทางราคาขายปลีกเนื้อไก่ทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 39-41 บาทต่อกิโลกรัม มั่นใจรายได้โตตามเป้า 2-3% เตรียมเปิดโรงเชือดไก่ใหม่ คาดเสร็จในช่วงครึ่งแรกปี 2569 มีกำลังการผลิตราว 150,000 ตันต่อวัน ขณะที่ไม่รับผลกระทบปัญหาไทย-กัมพูชา พร้อมวางแผนรับมือทิศทางค่าเงินผันผวน
นายวีระ ธิตยางกรุวงศ์ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ยังคงทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2568 เนื่องจากมียอดการส่งออกที่สูงกว่าปกติและเป็นช่วงที่โลว์ซีซันที่สุดของปีจึงพยายามรักษาการเติบโตในระดับสูง ส่งผลให้ครึ่งปีแรกมีทิศทางที่สดใส รวมถึงครึ่งปีหลังที่เป็นช่วงไฮซีซัน
โดยคาดว่าทิศทางราคาขายปลีกเนื้อไก่ปีนี้จะทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 39-41 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ต่ำ ขณะที่ฝนตกหนักทำให้การขนส่งไม่สะดวกและการบริโภคอาจลดลงจากการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังคงมั่นใจรายได้ปี 2568 เป็นไปตามเป้าหมายเติบโต 2-3% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยทุกปี อีกทั้งเติบโตจากฐานที่สูงขึ้นและปีนี้ยังไม่มีกำลังการผลิตใหม่ๆ เพิ่มเติม
*เตรียมเปิดโรงเชือดไก่ใหม่
อย่างไรก็ดี บริษัทได้วางงบลงทุนเฉลี่ยไว้ประมาณ 1,000-1,200 ล้านบาทต่อปี ส่วนใหญ่ใช้ในการลงทุนขยายโรงเชือดไก่แห่งใหม่ ฟาร์มเลี้ยงไก่ทั้งฟาร์มไก่พันธุ์และฟาร์มไก่เนื้อรวมถึงงบซ่อมบำรุงโรงงานเก่า ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างสร้างโรงเชือดไก่แห่งใหม่คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงครึ่งแรกของปี 2569 มีกำลังการผลิตราว 150,000 ตันต่อวัน
ในช่วงครึ่งปีแรกจะผลิตได้ประมาณ 40-50% ของกำลังการผลิตใหม่ หรือราว 70,000-80,000 ตัวต่อวัน และจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น โดยจะพิจารณาจากภาพรวมอุตสาหกรรมและตลาดเพื่อไม่ให้กระทบราคาขาย ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตเชือดไก่อยู่ที่ประมาณ 140,000 ตัวต่อวัน หากรวมทั้ง GFPT Group (บริษัท จีเอฟพีที นิชิเร จำกัด หรือ GFN ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนมีกำลังการผลิต 160,000 ตัวต่อวัน) จะอยู่ที่ 300,000 ตัวต่อวัน
*ปัญหาไทย-กัมพูชาไม่กระทบ
ทั้งนี้เรื่องประเด็นปัญหาชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา บริษัทมั่นใจไม่มีผลกระทบต่อการส่งออก เนื่องจากประเทศส่งออกหลัก คือ อังกฤษ ยุโรป ญี่ปุ่น จีน ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านจะเป็น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี โดยอังกฤษยังเป็นลูกค้าหลักหลังจากอังกฤษแยกตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ทำให้สามารถส่งออกไปอังกฤษได้เต็มที่มากขึ้น ในส่วนประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปอื่น ๆ ยังคงมีโควตาการส่งออกไก่
อย่างไรก็ดียังคงมีความกังวลเรื่องทิศทางเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่มีการต่อรองราคาลงมาเพื่อชดเชยกับอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน โดยบริษัทพยายามประคองยอดขายไม่ให้ลดลงและมีการปรับราคาให้ลูกค้ารายใหญ่หรือลูกค้าประจำในราคาที่เหมาะสมเพราะสินค้าส่งออกมีการบวกราคาไว้แล้ว ซึ่งวิธีแก้ปัญหา คือ การล็อกปริมาณส่งออกล่วงหน้าเป็นหลักและราคาสินค้าแต่ละชนิดจะมีช่วงราคาขายที่กำหนดไว้แล้ว
ในการส่งออกจริงจะยืนยันราคากับลูกค้าอีกครั้ง โดยปรับราคาให้อยู่ในช่วงกรอบราคาขายตามต้นทุนวัตถุดิบ ซึ่งปัจจุบันราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยเฉพาะกากถั่วเหลืองที่นำเข้าจากต่างประเทศ มีราคาค่อนข้างต่ำทำให้ไม่จำเป็นต้องบวกราคาเพิ่มมาก
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
