3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน

#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ติดตามเงินเฟ้อเดือน พ.ค. ของสหรัฐฯ คืนพรุ่งนี้Consensus คาด Headline CPI จะเพิ่มขึ้น 2.5% (เม.ย.+2.3%) และคาด Core CPI จะเพิ่มขึ้น 2.9%YoY (เม.ย. +2.8%) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดย FED Watch Tool ให้น้ำหนัก 52% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยรอบประชุม ก.ย. และให้น้ำหนักปรับลงดอกเบี้ยรอบประชุม ธ.ค. เพียง 46.3%กรณีตัวเลข CPI ออกมาสูงกว่าคาด จะหนุนดัชนีค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าแตะ 100-101 จุด
-วาระการประชุม ครม. วันนี้ จัดสรรงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งเน้นให้มีเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจทันที อาทิ กระทรวงคมนาคม-ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์-โครงการอ่างเก็บน้ำ จ.น่าน ส่งผลบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ได้แก่หุ้น STECON, CK กลุ่มวัสดุก่อสร้างได้แก่หุ้น SCC และขนส่ง ได้แก่หุ้น BEM, BTS, AOT
-การเมืองไทยมีผลต่ออารมณ์ตลาดหุ้น พฤหัสนี้แพทยสภานัดประชุม (นาย สมศักดิ์ รมว.สาธารณสุข เข้าประชุมด้วย) เพื่อลงมติยืนยืนยันหรือเปลี่ยนแปลงมติเดิมที่เคยลงโทษแพทย์ 3 คน เกี่ยวกับการรักษานายทักษิณที่ รพ. ตำรวจ มีแนวโน้มว่า แพทยสภาอาจยืนยันมติเดิมหากไม่มีการถอนตัวหรืองดออกเสียงจากกรรมการจำนวนมาก และศุกร์นี้9.30 น. ศาลฎีกาฯนัดไต่สวนนายทักษิณ-ผู้เกี่ยวข้อง กรณีรักษาตัวชั้น 14 ประเด็นที่ศาลจะพิจารณา 1. การบังคับโทษจำคุกเป็นไปตามหมายจำคุกหรือไม่ 2. การอนุญาตให้นอน รพ. มีเหตุผลทางการแพทย์จริงหรือเป็นการเอื้อประโยชน์ และ 3. บทบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมราชทัณฑ์, รพ. ตำรวจ, และแพทย์ผู้รับผิดชอบ
-ดัชนีหุ้นบ่ายนี้คาดวิ่งในกรอบ ระหว่าง 1,137-1,145 จุด
บล.เอเอสแอล ระบุว่าดัชนีช่วงเช้าปรับตัวขึ้น ปัจจัยต่างประเทศได้รับปัจจัยบวกจากความคาดหวังต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน ที่อาจนำไปสู่ข้อตกลงสำคัญ หลังจากผู้นำทั้งสองประเทศมีบทสนทนาเชิงบวก โดยเน้นประเด็นการส่งออกแร่หายากและความเป็นไปได้ในการผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการส่งออก ซึ่งมีแนวโน้มทำให้สงครามการค้าผ่อนคลายลง
อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นยังถูกจำกัด จากสถานการณ์การเมือง โดยต้องติดตามศาลฏีกาฯ นัดฟังคำสั่งเรื่องคำร้องไต่สวนบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตรกรณีรักษาตัวชั้น 14 ในวันที่ 13 มิ.ย. นี้อาจสร้างความกังวลต่อความเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือปฏิกิริยาทางสังคมหลังคำสั่งศาล ซึ่งอาจกระทบ Sentiment ตลาดในระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีเปิดปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,144-1,145 จุด ไม่ผ่านยืน แต่ไม่สร้างจุดต่ำกว่าใหม่ ระยะสั้นเน้นยืนเหนือ 1,135 จุด เพื่อคงกรอบการฟื้นตัว
บล.โกลเบล็ก ระบุว่าดัชนีพักฐานจากความกังวลเรื่องการปรับ ครม. และข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ขณะที่หุ้นกลุ่มแบงก์ ปรับตัวขึ้นเป็นตัวพยุงดัชนี มองกรอบดัชนีในช่วงบ่ายอยู่ที่ 1,133-1,145 จุด
ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้าดัชนีเคลื่อนไหว Sideways ออกข้าง โดยนักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างผู้แทนการค้าสหรัฐและจีน มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร และโรงพยาบาล ขณะที่มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่งผลให้ดัชนีพักเที่่ยง ปิดตลาดที่ 1,139.25 จุด บวก 4.01 จุด หรือ 0.35% มูลค่าการซื้อขาย 15,613.99 ล้านบาท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
