รีเซต

ทรัมป์ไม่สนแม้โดนก่นด่า เดโมแครตลุยถอดถอนสัปดาห์นี้

ทรัมป์ไม่สนแม้โดนก่นด่า เดโมแครตลุยถอดถอนสัปดาห์นี้
มติชน
11 มกราคม 2564 ( 07:51 )
47
ทรัมป์ไม่สนแม้โดนก่นด่า เดโมแครตลุยถอดถอนสัปดาห์นี้

เหลือเวลาอีกเพียง 10 วันก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ แต่แม้จะเหลือเวลาเพียงไม่มาก ความพยายามในการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งก็ยังคงเดินหน้าต่อไปไม่หยุดยั้ง

ขณะนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนำโดยพรรคเดโมแครต ได้เตรียมพร้อมในการถอดถอนทรัมป์ โดยคาดว่าอาจจะมีการลงคะแนนเสียงเริ่มต้นกระบวนการดังกล่าวอย่างเร็วที่สุดในวันอังคารที่จะถึงนี้ตามเวลาท้องถิ่น

 

การดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นภายใต้ข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลจากท่าทีของทรัมป์ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่การบุกยึดสภาคองเกรสของกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตระบุว่า หลังมีการเริ่มต้นกระบวนการถอดถอนทรัมป์ภายในสัปดาห์นี้ พรรคเดโมแครตจะยังคงไม่ส่งเรื่องไปยังวุฒิสภาเพื่อให้ดำเนินการขั้นต่อไป แต่จะรอให้นายโจ ไบเดน ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐไปแล้ว 100 วันเสียก่อน เพราะมีเรื่องสำคัญมากมายที่ต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ อาทิ การให้การรับรองผู้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี หรือการวางแผนรับมือกับการแพร่

ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

 

ขณะที่ทรัมป์ยังคงเก็บตัวเงียบและไม่ออกมาแสดงท่าทีใดๆ หลังจากเขาถูกระงับการใช้งานโซเชียลมีเดีย ซึ่งรวมถึงทวิตเตอร์ที่เพิ่งระงับบัญชีการใช้งานของทรัมป์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดีทรัมป์ยังคงไม่ยอมแพ้และไม่คิดจะลาออก ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้เขาทำเช่นนั้น โดยมีรายงานว่าเขาตั้งใจจะใช้เวลาในช่วงสุดท้ายเพื่อตีปี๊บผลงานที่ทำมาในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

 

รายงานข่าวระบุว่าทรัมป์เตรียมที่จะตำหนิบริษัทต่างๆ ที่ปฏิเสธการใช้งานโซเชียลมีเดียเขา และยังเตรียมตัวที่จะเดินทางไปเยือนอลาโม ในรัฐเท็กซัส เพื่อตอกย้ำนโยบายการป้องกันการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและการสร้างกำแพงตามแนวชายแดนของเขา

จนถึงขณะนี้ทรัมป์ยังคงไม่ยอมรับว่าตนเองมีบทบาทในการทำให้เกิดความรุนแรงและการบุกยึดสภาคองเกรส แต่การจัดทำโพลของเอบีซีนิวส์และสำนักจัดทำโพลอิปซอสที่ถูกเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาระบุว่า ชาวอเมริกันเกินครึ่งหรือ 56% เชื่อว่าทรัมป์ควรถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งก่อนจะครบเทอม ขณะที่ 67% หรือสองในสามของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าทรัมป์สมควรถูกตำหนิกับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง