'สนธิญา' ยื่น ป.ป.ช.สอบ 'มงคลกิตติ์' หลังท้าชก 'นายกฯ' ส่อขัดจริยธรรม ส.ส. มาตรา 219
ข่าววันนี้ 23 สิงหาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร และอดีตผู้สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช. โดยมีนายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิเคราะห์ และพิสูจน์หลักฐานเบื้องต้น รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ท้าต่อยมวยไทยคาดเชือกกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง
นายสนธิญากล่าวว่า การกระทำของนายมงคลกิตติ์ขัดต่อข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมของสมาชิกรัฐสภา ทำให้สภาเสื่อมเสียชื่อเสียง ขัดต่อจริยธรรมอย่างร้ายแรง ว่าด้วยบัญชีแนบท้าย ข้อบังคับจริยธรรม ส.ส. ปี 2563 จึงได้มายื่นหนังสือให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ซึ่งในโซเชียลการกระทำของนายมงคลกิตติ์เป็นเรื่องตลก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ส.ส.ต้องมีวุฒิภาวะ
นายสนธิญากล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติต้องทำงานควบคู่กันไป ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ใช่ไปท้าต่อย ท้าชกกับฝ่ายนู้นฝ่ายนี้แล้วเอาตำแหน่งมาเดิมพันกัน และตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็มาจากกระบวนการสรรหาและเลือกตั้งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากในสภาทั้งหมด เช่นเดียวกับตำแหน่งของนายมงคลกิตติ์
นายสนธิญากล่าวด้วยว่า ขอถามว่าหากต่อยกันแล้วคนใดคนหนึ่งแพ้ ถามประชาชนว่ายอมให้ลาออกหรือไม่ อีกทั้งนายกรัฐมนตรีเป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อย จปร. นายกฯเป็นคนที่ออกกำลังกายตลอด อย่าประมาทคนที่เคยเป็นทหาร และจบโรงเรียนทหารมา เพราะมีศิลปะการต่อสู้ แต่ที่ตนมาร้องคือเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขัดต่อจริยธรรมของ ส.ส. มาตรา 219 ว่าด้วยจริยธรรมของประธานศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่ง ส.ส.ต้องปฏิบัติตาม
นายสนธิญากล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้มาติดตามความคืบหน้ากรณีที่ได้ยื่นสอบจริยธรรมนายมงคลกิตติ์ พร้อมกับนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ที่ไปร่วมชุมนุมทางการเมือง และชู 3 นิ้ว ที่ ม.ธรรมศาสตร์และสนามหลวง เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563 ซึ่งได้รับแจ้งว่าขณะนี้ ป.ป.ช.รับเรื่องดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างเรียกทั้ง 3 คน มาสอบ