รีเซต

บล.กสิกรฯมอง SET 1,510-1,535 ดักทางโหวตนายกฯ-คาดจีนลด ดบ.

บล.กสิกรฯมอง SET 1,510-1,535 ดักทางโหวตนายกฯ-คาดจีนลด ดบ.
ทันหุ้น
21 สิงหาคม 2566 ( 09:19 )
86
บล.กสิกรฯมอง SET 1,510-1,535 ดักทางโหวตนายกฯ-คาดจีนลด ดบ.

บล.กสิกรไทย มองดัชนีแกว่งตัวขึ้นบนคาดจีนลดดอกเบี้ยต่อ และโค้งสุดท้ายทิศทางการเมืองไทยทั้งเลือกนายก และทักษิณกลับไทยวันพรุ่งนี้(22 ส.ค.) ประเมินกรอบซื้อขาย 1,510-15/ 1,535 หุ้นแนะนำ MOSHI HANA

 

สรุปภาวะตลาดเมื่อวันวานนี้

ต่างประเทศ: ดัชนี DJIA +0.07%, S&P 500 -0.01%, NASDAQ -0.20% โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Energy (+0.94%), Utilities (+0.39%), Consumer Staples (+0.37%) ข ณ ะ ที่ Communication services (-0.98%), Consumer discretionary (-0.32%), Financials (-0.13%)

 

ในประเทศ: SET Index -9.69 pts. หรือ -0.63% ปิดที่ 1,519.12 จุด ตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญคือ PTTEP (+0.63%), WHA (+3.66%), TRUE (+0.74%), SAWAD (+2.79%) ขณะที่ DELTA (-4.13%), GULF (-1.04%), CPAXT (-1.43%), OR (-1.95%)

 

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ: บรรยากาศตลาดต่างประเทศยังเป็นลบจากความกังวลบนปัญหาเศรษฐกิจจีนโดยเฉพาะหลังจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อนบริษัทอสังหาฯรายใหญ่ของจีน ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ได้ยื่นคำร้องต่อศาลนิวยอร์กของสหรัฐเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 15 ของกฎหมายล้มละลาย อย่างไรก็ดี คาดตลาดปรับตัวฟื้นขึ้นได้วันนี้ คาดจีนลดดอกเบี้ยต่อช่วยพยุงเศรษฐกิจ ส่วนด้านการเมืองไทยเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการลุ้นทั้งทักษิณกลับไทย รวมทั้งโหวตเลือกนายกในวันพรุ่งนี้(22 ส.ค.) มองกรอบซื้อขายวันนี้ที่ 1,510-15/1,535 จุด

 

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) พรรคเพื่อไทยเผยทางแกนนำพรรคยืนยันขณะนี้มีเสียงสส.สนับสนุน 314 เสียงแล้ว ส่วนจะมีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมด้วยหรือไม่นั้นขอให้รอดูวันนี้ 21 ส.ค. ซึ่งคาดว่าจะมีการแถลงข่าว นำโดยพรรคเพื่อไทยกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมั่นใจว่าในวันที่ 22 ส.ค.จะสามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะส่งนายเศรษฐา ทวีสิน ชิงตำแหน่งเก้าอี้นายกแน่นอนและมั่นใจในคะแนนเสียงสนับสนุน

 

2. ตลาดนับถอยหลังรอดูผลกระทบทางการเมืองหลังทักษิณเตรียมบินกลับไทยวันพรุ่งนี้ 22 ส.ค. เวลา 9.00 โมงที่สนามบินดอนเมือง และต่อด้วยประชุมสภาฯเตรียมโหวเลือกนายกครั้งที่ 3ช่วงประมาน 10.00 โมง โดยคาดน่าจะสามารถพร้อมลงมติไม่เกินเวลา 15.00 น. และคาดว่าราว 17.30 น. น่าจะเสร็จสิ้น

 

3.) สำนักข่าวรายงานปุ๋ยราคาร่วง 50% แม้สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อไม่จบ การปิดเส้นทางส่งออกทะเลดำไม่กระทบส่งออกปุ้ยจากรัสเชีย บริษัทผู้นำเข้าปู้ยเคมีสอกลัน ต้องเร่งระบายครั้งใหญ่ เนื่องจากราคาปุ๋ยปรับลดลงรายสัปดาห์เฉลี่ยราคาแทบทุกสูตรปรับลง 50% ขณะที่ด้านราคาปุ้ยมีการปรับตัวลงแรงผู้ประกอบการ-โรงสีแห่ปรับขึ้นราคาข้าวสาร ตามราคาข้าวเปลือกที่ขยับขึ้นและออร์เดอร์ส่งออกข้าวต่างประเทศ แม้กรมการค้าภายในร้องขอให้ช่วยตรึงราคา พบในจังหวัดใหญ่ต่างปรับขึ้นราคาข้าวสารทุกประเภทกันหมดแล้วเฉลี่ย กก.ละ 2-3 บาท (มองเป็นบวกกลุ่มหุ้นเชื่อมโยงกำลังซื้อต่างจังหวัด เนื่องจากต้นทุนการทำเกษตรลดลง ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวเพิ่มขึ้น)

 

4.) ทางการอินเดียประกาศเก็บภาษีส่งออกหัวหอมในอัตรา 40% หลังราคาสินค้าเกษตรหลายรายการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นบนความกังงลสภาพอากาศที่แห้งแล้งทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรหลายรายการตกต่ำและอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ

 

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้แนะนำกลยุทธ์ Selective Buy ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ หรือมีแนวโน้มผลประกอบการ 2H23 ฟื้นตัวขึ้น ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,515 - 1,550 จุด แม้ปัจจัยภายนอกเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่พุ่งสูงขึ้น และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนยังเป็นปัจจัยกดดัน แต่คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะ utperform ตลาดหุ้นโลกบนความคาดหวังการจัดตั้งรัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทย พร้อมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

หุ้นแนะนำวันนี้

Top pick: MOSHI (ราคาพื้นฐาน 62.60 บาท ) ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ จากมุมมองเชิงบวกหลังงบไตรมาส 2/2566 ออกและประชุมนักวิเคราะห์ คาดกำไรครึ่งปีหลังเร่งแรงทั้ง YoY และ HoH จากส่วนแบ่งกำไรของอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ส่วนแบ่งกำไรจาก OST และช่วงไฮซีซั่นปลายปี

Top pick: HANA (ราคาพื้นฐาน 69.00 บาท) เราประเมินทิศทางผลประกอบการดีต่อเนื่องทำให้เราปรับคาดการณ์กำไรปี 2566-68 ขึ้น 23-34%ไม่เพียงแต่จากแนวโน้มระยะสั้นที่เราคาดจะเห็น GPM ดีขึ้น อีกทั้งค่าเงินบาทอ่อนค่าเป็นบวกต่อผลประกอบการ ทำให้กำไรเร่งตัวต่อ Q00 ในไตรมาส 3/2566 แต่มองไปไกลกว่านั้นเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของกำไรในระยะยาวและโอกาสทางธุรกิจของบริษัท

 

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันจันทร์ติดตามช่วงเช้าประชุมธนาคารกลางจีน (PBOC) คาดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย Loan prime rate ระยะ 1 ปีลง 15bps จาก 3.55% เป็น 3.40%ต่อด้วยตัวเลข GDP ของไทยสำหรับไตรมาส 2/2566 คาดว่า จะขยายตัว 3.0% YOY เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 2.7% YOY

 

วันอังคารติดตามผลโหวตเลือกนายกไทยและช่วงข้ามคืนติดตามสหรัฐฯประกาศตัวเลขภาคการผลิต Richmond Manufacturing Index ตลาดคาดที่ -6 จุด ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -9 จุด และตัวเลขยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. ตลาดคาดที่ 4.15 ล้านยูนิต ลดลงเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.16 ล้านยูนิต

 

วันพุธติดตามตัวเลขส่งออกไทยเดือน ก.ค. คาดปรับตัวลดลง 3.1% YOY แต่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ลดลง 6.4% YOY ขณะที่ด้านต่างประเทศติดตามตัวเลขดัชนีภาคการผลิตเบื้องต้นโดยตลาดคาดที่ 42.4 จุดลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 42.7จุด และช่วงข้ามคืนดิดตามตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. คาดลงจากเหลือ 707k จากเดือนก่อนหน้าที่ 697k

 

วันพฤหัสฯติดตามตัวเลขยอดขายสินค้าคงทนของสหรัฐฯเดือนก.ค. ตลาดคาดปรับตัวลดลง 4.0% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 4.6 MM และติดตามตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานตลาดคาดที่ 242k คน เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 239k คน ในช่วงข้ามคืนวันพฤหัสฯฟากฝั่งสหรัฐฯมีการจัดประชุมสัมมนาวิชาการทางเศรษฐกิจหรือ Symposium ที่ Jackson Hole นักลงทุนอาจติดตามถ้อยคำในการหารือของกลุ่มเจ้าหน้าระดับสูงของธนาคารกลางหลักหลายแห่งที่เข้าร่วมประชุม

 

วันศุกร์ติดตามรายงานตัวเลขผลผลิตและรายได้ภาคการกษตรของไทยเดือนก.ค.และติดตามตัวเลขด้ชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเยอรมัน German Ifo Business Climate ตลาดคาดที่ 86.8 จุด ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 87.3 จุด

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง