รีเซต

2คดีลวงสวาท กระฉ่อนจีน อู๋อี้ฝาน ลามถึง เฉินหลง - อาลีบาบาก็โดน

2คดีลวงสวาท กระฉ่อนจีน อู๋อี้ฝาน ลามถึง เฉินหลง - อาลีบาบาก็โดน
ข่าวสด
18 สิงหาคม 2564 ( 02:53 )
155

 

2คดีลวงสวาท - ซีเอ็นเอ็น รายงานกระแส #MeToo ในประเทศจีน หลังเหยื่อสาวใน 2 คดีดังกล้าเปิดตัวเพื่อเอาผิดฝ่ายชายที่ทรงอำนาจและชื่อเสียง ทั้งคดีพระเอก“คริส อู๋หรืออู๋ อี้ฝานอดีตสมาชิกวง EXO ถูกจับอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อ 16 ส.ค. และคดีผู้จัดการสาขาของบริษัท อาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ ถูกไล่ออก หลังต้องคดีอื้อฉาวทางเพศ

 

 

 

 

สำหรับคดี คริส อู๋ พระเอกวัย 30 ปี สัญชาติจีน-แคนาดา ถูกตำรวจจับกุมไปสอบปากคำในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 31 .. เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาล่วงละเมิดทางเพศสั่นสะเทือนวงการอุตสาหกรรมบันเทิงจีนและจุดกระแสติดแฮชแทก #Metoo

 

 

 

 

ข่าวการจับกุมอู๋เป็นข่าวที่ชาวจีนสนใจมากและเป็นประเด็นร้อนที่ติดอันดับแรกในเว๋ยป๋อเมื่อค่ำวันจันทร์ ส่วนใหญ่สนับสนุนการปฏิบัติการของตำรวจและแฮชแทก #MeToo ในเว่ยป๋อมีคนเข้าไปชมกว่า 1,600 ล้านครั้งในเช้าวันอังคารที่ 17 ส.ค.

 

 

สื่อออนไลน์จุดประเด็น

ข้อกล่าวหาว่าอู๋ลวงสวาทสาวเริ่มกระฉ่อนในแอพพลิเคชันเว่ยป๋อสื่อสังคมออนไลน์จีนเมื่อเดือนที่แล้ว โดยตู้ เหม่ยจูเน็ตไอดอลจีนกล่าวหาอู๋ว่าล่วงละเมิดทางเพศขณะที่เธอดื่มเหล้าที่บ้านของดาราหนุ่มซึ่งหลอกว่าให้ไปสัมภาษณ์เพื่อคัดตัว

 

 

ตู้ เป็นนักศึกษานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยจีนในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่าขณะเกิดเหตุ เธอมีอายุ 17 ปี

 

 

ตู้ เหม่ยจู กล่าวหาพระเอก อู๋อี้ฝาน

 

 

นอกจากนี้ ตู้เปิดเผยด้วยว่ายังมีหญิงสาวอีกหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อของอู๋ รวมทั้ง เยาวชน 2 คน แต่ผู้แทนของอู๋ไม่ได้ตอบกลับผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นแต่อย่างใด

 

 

ส่วนแถลงการณ์จากสำนักงานอัยการเขตเฉาหยางในกรุงปักกิ่งกล่าวว่าจับกุมอู๋อย่างเป็นทางการเพราะเป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืน แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดข้อกล่าวหา

 

 

ก่อนที่จะถูกจับ อู๋ปฏิเสธข้อกล่าวหาทางชื่อบัญชีส่วนตัวในเว่ยป๋อ ขณะที่บริษัทของดาราดังกล่าวว่าจะฟ้องกลับผู้ที่กล่าวหาอู่และเปรียบการกล่าวหาว่าเป็นการซุบซิบใส่ร้ายป้ายสี

 

 

 

 

อู๋เกิดทางใต้ของจีน แต่ได้สัญชาติแคนาดา เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงและโด่งดังจากการเป็นสมาชิกวง EXO และแยกตัวออกมาเป็นนักร้องเดี่ยว หลังจากออกจากวงเมื่อปี 2557 และแสดงภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมทั้ง เป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์ดัง อย่าง เบอร์เบอร์รีส่งผลให้เป็นแบรนด์ แอมบาสซาเดอร์ชื่อดังคนหนึ่งของจีน

แต่หลังจากที่มีข่าวอื้อฉาว แบรนด์ดังต่างๆ ที่จ้างอู๋เป็นพรีเซนเตอร์ต่างพากันถอนตัว ทั้งหลุยส์ วิตตอง บุลการี และเครื่องสำอางจีนยี่ห้อ Kans

 

 

 

 

ดาวรุ่งกลายเป็นดาวร่วงทันที หลังจากถูกจับกุมและยังถูกปิดบัญชีผู้ใช้เว่ยป๋อซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 51 ล้านราย รวมทั้ง เพลงต่างๆ ของอู๋ก็ถูกถอดออกจากเว็บไซต์เพลงด้วย

ไม่เท่านั้น epochtimes.com รายงานว่า คดีของอู๋ อี้ฝาน บานปลายไปโดนดาราคนอื่นๆ ในวงการที่เคยพยายามปกป้องพระเอกอู๋ด้วย โดยเฉพาะ เฉิน หลง ซูเปอร์สตาร์ที่โด่งดังในฮอลลีวู้ด ถูกซ่ง ซูเต๋อ สื่อคนดัง โพสต์ในเว่ยป๋อ ตำหนิและขึ้นบัญชี 14 รายชื่อ พร้อมกับ เฟิง เสี่ยวกัง ผู้กำกับฯ อาวุโส ว่าสมควรถูกลงโทษ ด้วยการแบนจากวงการอย่างน้อย 10 ปี

 

 

เฉินหลง และ เฟิงเสี่ยวกัง

 

 

ซ่ง ซูเต๋อ จุดประเด็นด้วยว่า คนในวงการบันเทิงทำให้ชาวจีนเข้าใจผิดๆ ว่าเป็นวงการหรูหรา หาเงินง่าย ดารามีรายได้เฉลี่ย 50-500 ล้านหยวน หรือราว 250-2,500 ล้านบาท เทียบแล้วเท่ากับเงินเดือนนักวิทยาศาสตร์ 100 คนรวมกัน 20-50 ปี ทำให้เยาวชนไปฝึกการแสดงเพื่อเข้าวงการและถลุงเงินพ่อแม่ โดยไม่ได้เรียนอะไรเลย อีกทั้งยังไม่ประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง

หลังเกิดกระแสดังกล่าว ทำให้เฉิน หลง และเฟิง เสี่ยวกัง ต่างยกเลิกไปออกงานใหญ่ในวงการภาพยนตร์

 

 

#MeToo กับ 2คดีลวงสวาท

นอกจากกระแสติดแฮชแทก #Metoo ในจีนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วอาลีบาบายักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีนประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ 9 ส.ค. ว่าไล่พนักงานระดับผู้จัดการออกคนหนึ่งเพราะถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศพนักงานอีกคนระหว่างเดินทางไปทำธุรกิจ

 

 

Logo at the Alibaba Group headquarters in Hangzhou, China, January 20, 2021. /CFP

 

 

ผู้เสียหายทั้ง 2 กรณีนี้ เปิดเผยให้ชาวเน็ตรับทราบผ่านสื่อสังคมออนไลน์จีน จนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดและตำรวจสืบสวนสอบสวนต่อไป

การที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างรวดเร็วได้รับชมจากชาวเน็ตบางกลุ่มและสะท้อนให้เห็นว่าทั้ง 2 กรณีนี้เข้าสู่หลักนิติธรรมและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาในจีน อีกทั้ง ทำให้ชาวจีนบางคนเห็นว่าผู้เสียหายกล้าเปิดปากพูดและเรียกร้องความยุติธรรมได้ยากเย็นเพียงใด

 

 

เรือนจำที่ อู๋อี้ฝาน ถูกคุมขัง

 

 

ด้านเฟิง หยวน นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านสตรีนิยมกล่าวว่าไม่แปลกใจเลยที่คนให้ความสนใจทั้ง 2 กรณี เพราะคริส อู๋ และอาลีบาบาต่างโด่งดังทั้งคู่ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าคดีล่วงละเมิดทางเพศอื่นๆ จะดังเท่า 2 กรณีนี้หรือไม่ หากไม่ได้เกิดกับคนดังหรือไม่มีอิทธิพล เนื่องจากผู้เสียหายจากคดีล่วงละเมิดทางเพศในจีนมักถูกตราหน้าและถูกต่อต้านทั้งในระดับทางการและในหมู่สาธารณชนทั่วไป

กระแสติดแฮชแทก #MeToo ไวรัลทั่วโลกเมื่อปี 2561 รวมทั้ง จีนซึ่งผู้หญิงกล้าออกมาเปิดเผยประสบการณ์เลวร้ายจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศมากขึ้น แต่กระแสในจีนจางหายอย่างรวดเร็วเพราะรัฐบาลห้ามไม่ให้เคลื่อนไหวในสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้ง เซ็นเซอร์แฮชแทก #MeToo และโพสต์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

นักเคลื่อนไหวกล่าวว่ากรณีล่าสุดแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลยังไม่กล้าเปิดปากพูดเรื่องการประพฤติผิดทางเพศอย่างเต็มใจสักเท่าไหร่โดยอ้างว่าเป็นปัญหาเชิงระบบ แทนที่จะรายงานคดีแต่ละกรณีและโยนความผิดไปที่อื่น

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ หน่วยงานเฝ้าระวังของรัฐบาลกล่าวว่าคดีคริส อู๋ มีความผิดเกี่ยวกับการลักลอบลงทุนและอุตสาหกรรมบันเทิงที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

 

 

แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

บทบรรณาธิการในหนังสือพิมพ์ เดอะ โกลบอล ไทมส์ ซึ่งเป็นของรัฐบาลกล่าวว่าเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการกำกับดูแลด้านกฎหมายและศีลธรรมให้มากยิ่งขึ้นในโลกเทคโนโลยี ขณะที่บริษัทต่างๆ ต้องปรับการลงทุนให้สอดคล้องกับค่านิยมทางสังคมมากขึ้น

 

 

 

 

ส่วนนักเคลื่อนไหวติงว่าสิ่งที่ยังน้อยเกินไป คือ ขาดพลังสนับสนุนผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับทางเพศและความไม่เท่าเทียมทางเพศในมิติต่างๆ ของสังคม

ขณะที่ ลู่ ผิง นักสตรีนิยมชาวจีนซึ่งอาศัยในนครนิวยอร์กกล่าวว่าสาเหตุส่วนหนึ่งที่รัฐบาลยังไม่ไว้ใจเสียงเรียกร้องจากชาวบ้านมากนักเพราะอาจจะต้องส่งเสริมการจัดระเบียบทางสังคมและสนับสนุนให้เคลื่อนไหวมากขึ้น

 

 

https://youtu.be/7xg39qGQPVg

 

ส่วนเฟิงกล่าวว่าผู้เสียหายจากคดีคริส อู๋ และอาลีบาบา ไม่ได้ ติดแฮชแทก #MeToo เพราะจะถูกเซ็นเซอร์ในสื่อสังคมออนไลน์ได้ง่าย

แต่สำหรับนักเคลื่อนไหวบางคนยังพอจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จากทั้ง 2 กรณีนี้เพราะแม้รัฐบาลไม่ต้องการพูดถึงเรื่องการประพฤติผิดทางพศ แต่สาธารณชนมีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง

เฟิงกล่าวว่าไม่ว่าจะเกิดกระแสเรียกร้องติดแฮชแทก #MeToo หรือไม่ หรือแม้แต่บัญชีชื่อใช้สังคมออนไลน์ของนักสตรีนิยมถูกเซ็นเซอร์ แต่เหยื่อก็หาทางพูดออกมาได้เสมอ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง