กัมพูชาหนุนผู้ประกอบการใช้ 'อาลีบาบา' ขายสินค้า ตอบโจทย์ตลาดโลก
(แฟ้มภาพซินหัว : พนักงานทำงานที่โรงงานเจเนอรัล ไทร์ เทคโนโลยี (กัมพูชา) ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ จังหวัดพระสีหนุของกัมพูชา วันที่ 21 พ.ย. 2023)
พนมเปญ, 27 พ.ค. (ซินหัว) -- วันจันทร์ (27 พ.ค.) กัมพูชาเรียกร้องให้กลุ่มผู้ประกอบการใช้งานแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างอาลีบาบา (Alibaba) ของจีน เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สู่ตลาดต่างประเทศ
จอม นิมล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวระหว่างงานสัมมนาประเด็น "ก้าวข้ามพรมแดน : พาผลิตภัณฑ์กัมพูชาสู่ตลาดโลกผ่านอาลีบาบา.คอม" ว่ากระทรวงฯ และอาลีบาบา กรุ๊ป ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกัมพูชาทางออนไลน์โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบาเมื่อเดือนตุลาคม 2023
นิมลเผยต่อผู้เข้าร่วมการสัมมนาฯ ราว 320 คนว่าปัจจุบันบริษัทสัญชาติกัมพูชาราว 10 แห่งได้นำผลิตภัณฑ์ อาทิ พริกไทย แยมมะม่วง และรังนกมาจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซดังกล่าว พร้อมเสริมว่าเธอต้องการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของพวกเขาบนแพลตฟอร์มนี้ เพื่อส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ของกัมพูชาไปยังจีนและตลาดโลก
นิมลกล่าวว่ากัมพูชาจะเปิดตัวพาวิลเลียนระดับชาติบนอาลีบาบา.คอมในเดือนกันยายนนี้ ช่วงนอกรอบงานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (China-ASEAN Expo) ครั้งที่ 21
นิมลเน้นย้ำว่าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน เกื้อหนุนให้กัมพูชาสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มประเทศสมาชิกความตกลงฯ และจีนด้วยอัตราภาษีพิเศษ
สำนักศุลกากรและสรรพสามิตทั่วไปของกัมพูชา รายงานว่ากัมพูชาส่งออกผลิตภัณฑ์มูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.9 แสนล้านบาท) ช่วงสี่เดือนแรก (มกราคม-เมษายน) ของปี 2024 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.2 จาก 6.94 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.5 แสนล้านบาท) เมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อน