รีเซต

เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้
ทันหุ้น
9 ธันวาคม 2565 ( 09:31 )
123
เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

#SET #ทันหุ้น - บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index แกว่ง Sideways โดยคาดว่าแนวรับหลักระยะสั้นที่ 1,610 จุดจะยังทำงานได้ดี และมีโอกาสฟื้นตัวระยะสั้นบ้างหลังจากปรับลงติดกัน 4 วันก่อนหน้า ปัจจัยที่ตลาดรอติดตามวันนี้คือตัวเลขเงินเฟ้อ PPI เดือน พ.ย. ของสหรัฐฯ หากออกมาชะลอตัวลงและต่ำกว่าคาดจะช่วยผ่อนคลายความกังวลทั้งการขึ้นดอกเบี้ยของ FED และแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้บ้าง 

 

อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบยังอ่อนตัวลงระยะสั้นกดดันกลุ่มพลังงานโดยเฉพาะต้นน้ำอย่างต่อเนื่อง แต่จะเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่ม Anti-Commodity อย่างโรงไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง อย่างต่อเนื่องจากแรงกดดันต้นทุนที่ต่ำลง รวมถึงเป็นบวกต่อกำลังซื้อของบริโภคที่จะดีขึ้นหนุนการบริโภคให้ทยอยเร่งตัว สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. ที่ฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 สู่ระดับ 47.9 ภาพรวมปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศคาดว่าจะช่วยหักล้างกับความเสี่ยงจากฝั่งต่างประเทศได้ ทำให้หุ้นไทยยังมีแนวโน้มแกว่งตัวแข็งแรงกว่าภูมิภาคอื่นๆ จึงยังเน้นลงทุนโดยเฉพาะกลุ่ม Domestic และ Consumption Play 

 

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic Play ตามเศรษฐกิจที่ทยอยเร่งตัว//ยังถือลงทุนต่อเนื่องหลังสะสมหุ้นเพิ่มไปแล้วช่วงปรับฐาน

หุ้นเด่นเดือนธ.ค. : BBL, BDMS, CRC, M, MAJOR

 

หุ้นเด่นวันนี้ : ITC

• แนะนำ “ซื้อ” กรอบราคาเป้าหมาย 41-45 บาท

• ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่ของไทยและของโลก มีจุดแข็งอยู่ที่ความได้เปรียบทางด้านต้นทุนและการพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรมสม่ำเสมอ การมี TU เป็นแม่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตปลาทูน่ารายใหญ่ของโลก ทีมผู้บริหารมีประสบการณ์เฉลี่ยถึง 20 ปี ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลกมายาวนาน และสามารถสร้างการเติบโตได้ดีกว่ามูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงมาโดยตลอดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

 • แม้จะเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด แต่อาหารสัตว์เลี้ยงยังเติบโตต่อเนื่องตามกระแส Pet Humanization คาดกำไรปกติปี 2022 ยังเติบโตแข็งแกร่ง +61% Y-Y และคาดการเติบโตของกำไร 3 ปีข้างหน้าจะโตเฉลี่ย +19% CAGR เราชอบทั้งแนวโน้มการเติบโตของกำไร และความสามารถทำกำไรที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง Finansia เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดนำหน่ายฯ

 

**บล.ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดดัชนีฯ ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ นักลงทุนรอดูประชุม FOMC สัปดาห์หน้า น้ำมันยังร่วงลงต่อ เมินจีนที่เป็นตัวช่วยหนุนตลาด

 

จากภาพตลาดที่ดูซึมๆ  บ่งชี้ว่าตลาดรอการประชุม Fed ในสัปดาห์หน้า(14) คาดว่า Fed จะมีการขึ้นดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. ที่ 0.50% กอปกรกับรอดูตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตของสหรัฐฯ ในคืนนี้ คาด 4.7% YoY จากเดือนก่อน 5.4% YoY มีผลให้ตลาดไม่ได้ตอบรับกับการผ่อนคลายมาตรการ Covid ของจีน อย่างที่ควรจะเป็น

 

จีนยังเป็นตัวแปรที่ช่วยตลาดอยู่ หลังจากมีมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมออกมา รวมถึงกระทบตุ้นเศรษฐกิจด้วย หากมีทิศทางที่ดีขึ้น หุ้นที่เคยถูกกระทบจะดีขึ้นตามลำดับ แต่ตลาดรับรู้มาสักระยะแล้ว

 

ราคาน้ำมันยังมีความกังวลเรื่องของ Demand ที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามต้องจับตาดูท่าทีของซาอุฯ หลังจากที่ราคาน้ำมันหลุด $80 เหรียญ (ล่าสุด Brent $76.1 เหรียญ) ว่าจะมีการลดกำลังการผลิตในครั้งต่อไปหรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน (PTTEP)

 

ประเด็นที่ต้องจับตาดู คือ สหรัฐฯมีการช่วยเหลือไต้หวันในด้านต่าง ๆ และจีนเยือนซาอุฯ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความไม่พอใจซึ่งกัน ติดตามว่าสหรัฐฯ จะมีการออกมาตรการ Sanction เรื่องของ Tech ของจีนเหมือนครั้งก่อนหรือไม่ ซึ่งจะกระทบหุ้นกลุ่ม Tech 

 

หุ้น ITC (IPO@32 บาท) เริ่มทำการซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก 

 

ตัวแรกเศรษฐกิจวันนี้ คือ ตัวเลขดัชนีผู้ผลิตของสหรัฐฯ เดือน พ.ย.Strategy

 

เรายังแนะนำให้ นักลงทุนชะลอการลงทุน และไปดูแนวรับถัดไปแถวๆ 1610 จุด ตลาดจะอยู่ในโหมดนี้จนกว่าการประชุม FOMC จะผ่านไปในสัปดาห์หน้า

 

หุ้นราคาลงมาลึก มีโอกาสดีดตัวกลับ DOHOME, KEX

 

พอร์ตหุ้นวันนี้ เรานำ BDMS ออกจากพอร์ต และนำ THCOM* เข้ามาในพอร์ต พอร์ตหุ้นประกอบไปด้วย THCOM*(10%), DITTO*(10%), WHA(15%), AAV(15%), SINGER(15%), CPF*(10%), III*(10%)

 

Strategy Stock Pick

THCOM*: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 14.30 บาท) “เดินหน้าสู่การประมูลวงโคจร, GULF พร้อมหนุน”

•เดินหน้าสู่การประมูลวงโคจรในเดือน ม.ค. หลังเราเห็นรายชื่อของหลายบริษัทที่เข้ามาซื้อซอง THCOM ลุ้นได้ประโยชน์ 2 ต่อ 1) ประมูลวงโคจรเฉพาะที่บริษัทสนใจและจะใช้แทน THCOM 4 (119.5 E) 2. หากผู้ประมูลรายอื่นเอาวงโคจรอื่นและลงทุนสร้างดาวเทียมใหม่ THCOM มีโอกาสเป็นคนรับ Operate เพราะมีความเชี่ยวชาญมากกว่า หนุนรายได้เข้ามาอีกทาง

•Bloomberg Consensus ประเมินผลกำไรปี ‘22-‘23 เฉลี่ยที่ 346 ลบ. และ 347 ลบ. +141%YoY และทรงตัว YoY ตามลำดับ

 

Technical : PROEN, AAI

 

**บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุ SET เมื่อวานลงทดสอบกรอบล่างบริเวณ 1610-1615 จุด และยังยืนได้ ขณะที่ตลาดผ่อนคลายจากความกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น มองจะช่วยหนุนให้ดัชนีกลับมาฟื้นตัว โดยมีกรอบบนที่ 1630-1640 จุด 

 

ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังตลาดยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ กลยุทธลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว 

 

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมองตลาดยังขาดปัจจัยชี้นำ จึงแนะนำ Selective Buy โดยเน้นรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1) หุ้นเก็งกำไรจากความคาดหวังจีนเปิดประเทศหรือคลายมาตรการล็อกดาวน์มากขึ้น เลือก SCGP IVL/MINT ERW 

2) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากการจัดงานมหกรรมยานยนต์ (Motor Expo ครั้งที่ 39 ซึ่งตลาดคาดเงินสะพัด 5.0 หมื่นลบ. เติบโต 16%YoY) เลือก TISCO 

3) หุ้นที่คาดโมเมนตัมกำไร 4Q65 เติบโตแข็งแกร่ง YoY และ QoQ อีกทั้ง Valuation ยังน่าสนใจ เลือก BBL GULF SPALI AOT CPALL AU

 

ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้

 

1) หุ้นที่คาดถูกนำออก SET50 ซึ่งจะประกาศ 16 ธ.ค. 65 และมีผลบังคับใช้ใน 1H66 อาทิ BLA IRPC KCE SAWAD (SET100 ที่คาดถูกนำออก MAJOR STEC SUPER SYNEX TASCO TTA)

 

2) หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากบาทแข็งค่าและผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยีของโลกมีแนวโน้มอ่อนแอต่อใน 4Q65

 

3) หุ้นเดินเรือ ซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง

 

MINT 4Q65 คาดกำไรจะปรับตัวดีขึ้น YoY จากทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารที่ปรับตัวดีขึ้น แต่อ่อนตัวลง QoQ จากผลกระทบฤดูกาล ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันยังเทรดที่ PBV ปี 2566 ระดับ 1.9 เท่า (-1SD) เท่ากับจุดต่ำสุดในปี 2551-2552

 

AMATA 4Q65 คาดยอดขายและยอดโอนที่ดินดีขึ้น หลังเข้าสู่ High Season อีกทั้งได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบและการกลับมาขยายการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ อีกทั้งคาดจะรับรู้รายได้สาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นตามจำนวนลูกค้าที่มีมากขึ้น

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง