รีเซต

ปัตตานีระส่ำ! ติดโควิดจากมัรกัสยะลา แอบกลับบ้าน-ไปมัสยิด ก่อนเสียชีวิต วุ่นตรวจเชื้อทั้งหมู่บ้าน

ปัตตานีระส่ำ! ติดโควิดจากมัรกัสยะลา แอบกลับบ้าน-ไปมัสยิด ก่อนเสียชีวิต วุ่นตรวจเชื้อทั้งหมู่บ้าน
ข่าวสด
24 มิถุนายน 2564 ( 15:13 )
218
ปัตตานีระส่ำ! ติดโควิดจากมัรกัสยะลา แอบกลับบ้าน-ไปมัสยิด ก่อนเสียชีวิต วุ่นตรวจเชื้อทั้งหมู่บ้าน

 

ปัตตานีระส่ำ! ระดมจนท.คัดกรองชาวบ้าน หลังผู้ป่วยกลับจากมัรกัสยะลาไม่รายงานตัว แถมไปมัสยิดต่อเนื่อง ก่อนเสียชีวิต ต้องปิดหมู่บ้านหาเชื้อ

 

 

 

วันที่ 24 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยังคงระส่ำหนักอีกรอบ หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 105 ราย ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อทั้งหมด 1,427 ราย และ พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 4 ราย

 

 

ซึ่งในพื้นที่จังหวัดปัตตานีเกิดความระส่ำขึ้นมา หลังจาก 1 ใน 2 ผู้เสียชีวิต เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากมัรกัสยะลา แต่กลับไม่ไปรายงานตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ โดยกลับไปพักที่บ้าน ภายในหมู่บ้านมะกอ หมู่ 1 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ทำให้ทางชาวบ้านในพื้นที่และเจ้าหน้าที่เร่งตรวจหาคัดกรองผู้ที่ใกล้ชิดสัมผัสกับผู้เสียชีวิตทันที

 

 

โดยในวันนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอกะพ้อ ร่วมกับ รพ.สต.กะพ้อ และผู้นำท้องถิ่น สนธิกำลังเข้าตรวจสอบประวัติและคัดกรองผู้เสี่ยงสูง ที่สัมผัสกับผู้เสียชีวิตทันที หลังจากทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจากการคัดกรองพบผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูงแล้ว 19 ราย

 

 

ด้าน นายเมษัณฑ์ โสภากาณฑ์ นายอำเภอกะพ้อ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 65 ปี ได้เดินทางกลับจากมัรกัสยะลา เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากว่าได้ปกปิดข้อมูลของตัวเอง และไม่รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่หลังจากเดินทางกลับมา ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ทราบเรื่อง จนกระทั่งวันที่ 20 มิ.ย. ชายคนดังกล่าวได้เสียชีวิตลง โดยญาติได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ผู้ตายมีอาการไข้ ตัวร้อน ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้มาตรการในการฝังศพของผู้เสียชีวิตตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยการสวมใส่ชุดพีพีอีในการประกอบพิธีฝังศพ

 

 

และเจ้าหนที่ได้ตรวจหาเชื้อของผู้เสียชีวิต กระทั่งวันที่ 23 มิ.ย.ผลการตรวจเชื้อผลเป็นโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้าที่จะป่วยจะเสียชีวิต ได้ไปพบปะชาวบ้านและประกอบพิธีทางศาสนาที่มัสยิดอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนโรคและคัดกรองผู้เสี่ยงสูงทันที รวมทั้งได้มีคำสั่งให้ปิดหมู่บ้าน โดยครั้งแรกจะเลือกพื้นที่เสี่ยงก่อน ทำให้บ้านกว่า 90 หลังคาเรือน ชาวบ้านกว่า 190 คน ต้องปิดพื้นที่ทันที และห้ามไม่ให้มีการเดินทางเข้าออก ส่วนเจ้าหน้าที่ยังคงต้องคัดกรองชาวบ้านในพื้นที่ต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง