รีเซต

PTTGC ฉวยจังหวะบอนด์ยิลด์สูง ซื้อหุ้นกู้คืน 164 ล.USD ลดภาระหนี้

PTTGC ฉวยจังหวะบอนด์ยิลด์สูง ซื้อหุ้นกู้คืน 164 ล.USD ลดภาระหนี้
ทันหุ้น
18 ตุลาคม 2566 ( 09:22 )
122

#PTTGC #ทันหุ้น - บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC แจ้งการซื้อคืนและยกเลิกหุ้นกู้บางส่วนของหุ้นกู้สกุลเหรียญสหรัฐฯ ของบริษัทฯ โดยอ้างถึงหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิจำนวน 3 รุ่นได้แก่

 

1) หุ้นกู้จำนวน 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.98 ต่อปี ครบกำหนดปี 2574 ซึ่งได้ออกและเสนอขายให้กับนักลงทุน และสถาบันต่างประเทศในเดือนมีนาคม 2564 ("หุ้นกู้ปี 2574")

2) หุ้นกู้จำนวน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.40 ต่อปี ครบกำหนดปี 2575 ซึ่งได้ออกและเสนอขายให้กับนักลงทุน และสถาบันต่างประเทศในเดือนมีนาคม 2565 ("หุ้นกู้ปี 2575") และ

3) หุ้นกู้จำนวน 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อายุ 30 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.20 ต่อปี ครบกำหนดปี 2595 ซึ่งได้ออกและเสนอขายให้กับนักลงทุน และสถาบันต่างประเทศในเดือนมีนาคม 2565 ("หุ้นกู้ปี 2595") 

 

หุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่นดังกล่าว ออกโดยบริษัท จีซี ศูนย์บริหารเงิน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ PTTGC ถือหุ้นร้อยละ 100 และหุ้นกู้ดังกล่าวมีบริษัทฯ เป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ทั้งจำนวนตามหนังสือรายงานตลาดหลักรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวน 3 ฉบับ ประกอบด้วย 1) เลขที่ 16-038/2566 ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2566 2) เลขที่ 16-041/2566 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2566 และ 3) เลขที่ 16-045/2566 ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2566 บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการซื้อคืนและยกเลิกหุ้นกู้บางส่วนของหุ้นกู้สกุลเหรียญสหรัฐฯ ของบริษัทฯ ทั้ง 3 รุ่นดังกล่าว

 

บริษัทแจ้งว่า บริษัท จีซี ศูนย์บริหารเงิน จำกัด ได้ดำเนินการซื้อคืน และยกเลิกหุ้นกู้บางส่วนของหุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่นดังกล่าวเพิ่มเติม ในตลาดซื้อขายรอง ตามรายละเอียดดังนี้

ทั้งนี้ บริษัทซื้อคืนและยกเลิกหุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่น รวม 163.803 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้มูลค่าหุ้นกู้สกุลเหรียญสหรัฐฯคงเหลือ ณ วันที่ 18 ตุลาคม 2566 เหลือ 1,670 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส วิเคราะห์หุ้น PTTGC แนะนำ “ถือ” ราคาเหมาะสม 33.00 บาทโดยมองว่าแนวโน้มปิโตรเคมียังไม่ดี คาดกำไรสุทธิ 3Q23F ไว้ที่ 877 ล้านบาท (ดีขึ้นจากขาดทุนสุทธิ 13.4 พันล้านบาทใน 3Q22 และขาดทุนสุทธิ 5.6 พันล้านบาทใน 2Q23) การฟื้นตัวมาจาก 1) ค่าการกลั่น Market GRM เพิ่มขึ้น +19%YoY, +105%QoQ เป็น 11.7 ดอลลาร์บาร์เรล  2) มาร์จิ้นอะโรเมติกส์ดีขึ้น +118%YoY , +3%QoQ  3) มีกำไรจากสต็อกราว 1.1 พันล้านบาท และ 4) ปริมาณขาย PE เพิ่มขึ้น แต่...บางส่วนถูกชดเชยด้วยผลขาดทุน FX ซึ่ง บล.ดีบีเอสฯคาดไว้ที่ -1.5 พันล้านบาท และขาดทุนจากทำประกันความเสี่ยง -2.0 พันล้านบาท

แนวโน้ม 4Q23F - ค่าการกลั่น Market GRM อ่อนลง ระดับสต๊อกน้ำมันเบนซินสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีเป็นครั้งแรกในปี 23 และการกลับมาผลิตของโรงกลั่นขนาดใหญ่ในยุโรปและสหรัฐ หลังปิดซ่อมบำรุงนอกแผนไปใน 3Q23  ใน 4Q23-QTD ค่าการกลั่นน้ำมัน JET, ดีเซล และเบนซิน ลดลง -1%, -6% และ -54% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม PE margin มีสัญญาณที่ดีขึ้นบ้าง หลังจากผู้ประกอบการหลายรายออกไปจากอุตสาหกรรม และ/หรือลดการผลิต และยังมีอุปทานกลับเข้ามาน้อยในช่วง 4Q23F

ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 23F-24F ลง -233% และ -59% โดยปี 23F คาดว่าจะขาดทุนสุทธิ 5.3 พันล้านบาท และปี 24F มีกำไรสุทธิ 10.6 พันล้านบาทสะท้อนราคา LDPE และ LLDPE ที่ลดลงจากสมมติฐานเดิม, ขาดทุนจาก FX, ขาดทุนจากการทำประกันความเสี่ยง และส่วนแบ่งกำไรจากบ.ร่วมลดลงจากคาดการณ์เดิม

แนะนำ “ถือ” ลดราคาพื้นฐานเป็น 33.00 บาท อิงกับ P/BV ปี 24F ที่ 0.5 เท่า (Mean - 28D) ทั้งนี้แนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมียังไม่ดี สเปรดถูกกดดันจากอุปสงค์ที่ชะลอตัว และอุปทานใหม่ที่เข้ามา

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง