BBIK โนมูระ พัฒนสิน มองกำไรโต-ยังมี upside risk จากดีล M&A 2 ราย
#BBIK #ทันหุ้น-บล.โนมูระ พัฒนสิน ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK หลังจากที่บริษัทได้ประกาศซื้อ 2 ดีลใหญ่ โดยเข้าลงทุนในบริษัท อินโนวิช โซลูชั่นส์ หรือ Innoviz ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้าน ERP มูลค่าไม่เกิน 904 ล้านบาท และเข้าลงทุนในบริษัท วัลแคน ดิจิทัล เดลิเวอรี่ จำกัด หรือ VDD ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในหน่วยงานของ MFEC ที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟแวร์และแอพพลิเคชั่น มูลค่าไม่เกิน 691 ล้านบาท ซึ่งมองว่าจะช่วยต่อยอดการเติบโตให้ BBIK ได้อีกมากกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายของปี 2566 ที่ 150 บาทต่อหุ้น
ฝ่ายวิจัยโนมูระ พัฒนสิน มองว่าการเข้าซื้อดีลทั้ง 2 จะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิต่อหุ้นในปีหน้าได้ และยังได้ประโยชน์จากการปรับรับงานใหม่ และ Synergy ร่วมกัน รวมถึงการเพิ่มบุคลากรของบริษัทจาก 350 คนเป็นกว่า 750 คนได้ทันที และเพิ่มความสามารถในการรับงาน ทั้งในเชิงศักยภาพการรับงานที่สเกลใหญ่ขึ้น และขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้น รวมถึงเพิ่มความพร้อมในการแข่งขันตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีโอกาสอีกมหาศาล
โดยรวมทั้ง 2 ดีลนี้จะเสริมกำไรปี 2566 ให้ BBIK อย่างน้อย 38 ล้านบาท คิดเป็น upside risk ต่อประมาณการกำไรปี 2566 ราว 17% และมองว่าในปีหน้าจะเริ่มเห็นประโยชน์จากากรลดต้นทุนก่อน โดยจะพยายามเพิ่มประสิทธิภาพภายในบริษัท และเตรียมขอ BOI ของทั้ง 2 บริษัท เพื่อลดค่าใช้จ่ายทางภาษี ส่วนการปรับไปรับงานที่สร้างมูลค่ามากขึ้น บริษัทคาดต้องใช้เวลาราว 1 ปี ทำให้อัตรากำไรสุทธิรวมของบริษัทอาจลดลงมาในปี 2566 จากปัจจุบันทั้ง 2 บริษัมีอัตรากำไรสุทธิราว 10-15% ต่ำกว่า BBIK ที่ราว 25% ก่อนกลับมาเพิ่มสูงอีกครั้ง หลังสามารถรับงานที่มีความเกี่ยวเนื่องกับ consulting (high margin) เพิ่มมากขึ้น
ฝ่ายวิจัย คาดเบื้องต้นในไตรมาส 4/65 BBIK จะมีกำไรอยู่ที่ 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 19% จากไตรมาสก่อน และยังคงประมาณการกำไรทั้งปี 2565อยู่ที่ 126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90% ส่วนกำไรทั้งปี 2566 อยู่ที่ 222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% จากรายได้ที่เติบโตสูงตามารทยอยส่งมอบงาน และประเมินกำไรทั้งปี 2566-2568 จะเติบโตเฉลี่ย 58% ต่อปี