DELTAปัจจัยเสี่ยงกดผลงาน เล็งอีวีเพาเวอร์-AIแววเด่น

#DELTA #ทันหุ้น - DELTA รอดูสถานการณ์ปัญหาทะเลแดง-ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ถึงกลางไตรมาส2/2567 ถึงเห็นภาพทิศทางผลดำเนินงานปีนี้ เชื่อผลิตภัณฑ์ด้านอีวีเพาเวอร์ – AI โตแรง หนุนการเติบโตปีนี้ ขณะที่โบรก คำสั่งซื้ออีวีไตรมาส 1/2567 ฟื้นตัวช้า
นายช่าย ซิง จาง ประธานบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 นั้น ยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนซัพพลายเชนจากเหตุการณ์ทะเลแดงทำให้การขนส่งสินค้าต้องใช้เวลานานขึ้นนั้น
รวมถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมในการรับมือตอนนี้ ทำให้ต้องรอดูสถานการณ์ปัญหาทะเลแดง และปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ไปจนถึงกลางไตรมาส 2 ปีนี้ก่อนถึงจะมีความชัดเจนในเรื่องการเติบโตของผลดำเนินงานปีนี้
อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ ปีนี้เติบโต โดยเฉพาะในส่วนของยานยนต์ไฟฟ้า AI ดาต้าเซ็นเตอร์ รวามถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับพลังงานสะอาด
“จากความกังวลดีมานด์รถอีวีที่จะลดลงนั้น ส่วนตัวมองว่ากฎระเบียบต่างๆ นั้นยังคงสนับสนุนอุตสาหกรรมรถอีวีอยู่ ดังนั้น จึงมองว่าความกังวลดังกล่าวเป็นปัจจัยระยะสั้น บริษัทยังคงขยายการลงทุนในธุรกิจนี้ต่อไป”
ส่วนค่าใช้จ่ายค่าบริหารด้านเทคนิคจ่ายให้กับเดลต้าไต้หวันนั้นยังคงมีอยู่ เพราะทางเดลต้าไต้หวันเป็นผู้คิดค้นสินค้า ออกแบบพัฒนาสินค้าดังกล่าวจึงจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายดังกล่าว ของทางเดลต้าที่จะมาผลิตในไทยก็จะต้องมีการดูแลค่าใช้จ่ายให้กับทางเดลต้าไต้หวัน แต่ถือเป็นระดับที่เหมาะสม
อีวีเพาเวอร์ฟื้น
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คำสั่งซื้อ EV Power ในไตรมาส 1/2567 อาจฟื้นตัว จากไตรมาส 4/2566 ไม่มาก หรืออาจทรง ขณะที่ค่าบริการด้านเทคนิคจ่ายให้บริษัทแม่ (เดลต้าไต้หวัน) น่ายังต้องรับรู้ต่อในปีนี้ แต่อาจเกลี่ยเป็นรายไตรมาส เช่นเดียวกับค่า Royalty Fee ที่ปัจจุบันจ่ายให้ Delta Taiwan ทุกปีอยู่แล้ว และมีโอกาสถูกรีวิวเพิ่มขึ้นอีกขึ้นอยู่กับบริษัทแม่เป็นหลัก
ทั้งนี้บริษัทยังตั้งเป้ารายได้ปีปี 2567 โต 10-20% จากปี 2567 และตั้งเป้าอัตรากําไรขั้นต้น เพิ่มขึ้น 1-2% จากปีก่อน เป็น 23-24% ภาพรวมทั้งปีนี้น่าจะยังโตได้ดี และเดินหน้าขยายกําลังการผลิตต่อปัจจัยหนุนการโตในปีนี้ ยังมาจาก EV Power เป็นหลัก ตั้งเป้าโตสูงต่อเนื่อง
รวมถึงการฟื้นตัวของรายได้กลุ่มอื่นทั้ง Data Center, Fan และ India Business ทั้งนี้ยังมีแผนลงทุนขยายกําลังการผลิตต่อเนื่อง หลังจากขยายโรงงานบางปู (EV Related)ในปี 2566 โดยปี 2567จะเริ่มขยายโรงงานที่เวลโกรว ฉะเชิงเทรา (กลุ่ม Power Electronics)ใช้เงินลงทุนราว 3 พันล้านบาท จะแล้วเสร็จปี 2568 รวมถึงมีแผนขยายที่อินเดียและเยอรมนีด้วยเงินลงทุน 3.3 พันล้านบาท และ 964 ล้านบาท คาดกําไรสุทธิปี 2567 โตต่อราว 19% เป็น 2.2 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงเป้าบริษัทคงประมาณการกําไรและราคาเป้าหมาย แนะนําขาย แม้ราคาหุ้นปรับตัวลงมา แต่ราคาหุ้นยังเต็มมูลค่า ยังคงราคาเป้าหมาย 70 บาท
ดีมานด์ดาต้าหนุน
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่าในไตรมาส 4/2566 ทาง DELTA ได้รับค่าชดเชยกว่า 546 ล้านบาท จากลูกค้าหลักที่เลื่อนโครงการออกไปในขณะที่บริษัทได้ลงทุนเตรียมผลิตสินค้าไปแล้ว ในขณะเดียวกัน รายได้ที่
เพิ่มขึ้นดังกล่าวทำให้ค่าใช้จ่ายภาษีเพิ่มขึ้น และทำให้กำไรจากธุรกิจหลักของ DELTA ลดลงเหลือ 4.3 พันล้านบาท
(-4%YoY, -16%QoQ) ต่ำกว่า Consensus 10% และต่ำกว่าประมาณการของเรา 9%
อย่างไรก็ตามคาดว่าผลการดำเนินงานยังดีอยู่เนื่องจากกำไรจากการดำเนินงานลดลงเพียง 3%QoQ เป็น 4.9 พันล้านบาท ดีกว่าประมาณการของเรา 4% เพราะประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน ซึ่งทำให้ GPM ของ DELTA เพิ่มขึ้นเป็น 24.5% จาก 22.6% ในไตรมาส 3/2566 แม้ว่ารายได้จะลดลง 7%QoQ เหลือ 3.78 หมื่นล้านบาท เพราะการชะลอตัวของอุปสงค์ชิ้นส่วน EV ซึ่งลดลง QoQ เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี
ทั้งนี้เราเชื่อว่าอุปสงค์ของกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จะยังคงอ่อนแอในไตรมาสนี้ แต่เราเชื่อว่าบริษัทมีแนวโน้มแข็งแกร่งมากขึ้นจากอุปสงค์ที่ยังแข็งแกร่งจากกลุ่ม Data ดังนั้น เราจึงคาดว่ารายได้ของ DELTA จะดีขึ้นเล็กน้อย QoQ ในไตรมาส 1/2567 คงคำแนะนำถือ โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 83 บาท