รีเซต

EA ขายโซลาฟารม์ 90 MW 'กสิกรไทย' ชี้เสี่ยงขาลง โอกาสหั่นเป้าอีก 8%

EA ขายโซลาฟารม์ 90 MW  'กสิกรไทย' ชี้เสี่ยงขาลง โอกาสหั่นเป้าอีก 8%
ทันหุ้น
16 ธันวาคม 2567 ( 10:30 )
15

#ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย ส่องหุ้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA มุมมองการขายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ EA Solar Phitsanulok มูลค่ากว่า 8 พันลบ. 

 

โดยเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จํากัด (มหาชน) ประกาศว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้ขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 31 ม.ค. 2568 สําหรับการขายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ EA Solar Phitsanulok (ESP) ขนาด 90 MW โดยมีมูลค่ากจิการ (Enterprise value) ไม่ต่ำกว่า 8 พันลบ. การขายดังกล่าวอาจเป็นการขายทั้งหมดหรือบางส่วน พร้อมทางเลือกในการซื้อกลับที่ราคา 1 ลบ. หลังจากการขาย 25 ปี หากขายออกไปทั้งหมด เงินที่ได้จำนวน 8 พันลบ. จะถูกจัดสรรดังนี้ 4.4 พันลบ. สําหรับการชําระคืนเงินกู้โครงการระยะยาว และ 3.6 พันลบ. สําหรับชําระคืนเงินกู้ถาบันการเงินตราสารหนี้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

 

ESP มีสัดส่วนที่สำคัญต่อกําไรของ EA ESP ซึ่งเริ่มดําเนินการในเดือน เม.ย. 2559 เป็นหนึ่งในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 4 โครงการของ EA (รวมกําลังการผลิต 278 MW) และเคยเป็นปัจจัยสําคัญในการขับเคลื่อนกําไรของบริษัทฯ ในช่วงปี 2564-66 ESP สร้างกําไรให้ EA ประมาณ 1.5-1.8 พันลบ.ต่อปี คิดเป็นประมาณ 25% ของกําไรรวมทั้งหมดของบริษัท อย่างไรก็ตาม โครงการนี้จะหมดอายุการรับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (adder) ที่ 6.50 บาท ในเดือนเม.ย. 2569 ซึ่งคาดว่าจะทําให้กําไรลดลงเหลือเพียง 100-300 ลบ.ต่อปี ตังแต่ปี 2570 เป็นต้นไป

 

สภาพคล่องเพิ่มขึ้น แต่มีแรงกดดันต่อกําไรในระยะสั้น การขายสินทรัพย์ดังกล่าวร่วมกับการเพิมทุนที่คาดว่าจะได้ประมาณ 7.4 พันลบ. ในเดือนม.ค. 2568 จะช่วยให้ EA มีเงินทุนเพิ่มขึ้นราว  1.1 หมืนลบ. ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงด้านสภาพคล่องในช่วงปี 2568-69 ได้ โดยเฉพาะอย่างยิงเมื่อเทียบกับหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยของ EA ที่ 6 หมื่นลบ. ณ ไตรมาส 3/2567 ซึ่งรวมถึงหนี้ที่จะครบกําหนดในปี 2568 ประมาณ 1.52 หมื่ลบ. โดยหลังจากชําระคืนเงินกู้โครงการของ ESP (1.5 พันลบ.เป็นหนี้ระยะสั้น และ 2.9 พันลบ.เป็นหนี้ระยะยาว) หนี้ที่จะครบกําหนดในปี 2568 จะลดลงเหลือ 1.37 หมื่นลบ. อย่างไรก็ตาม การขายสินทรัพย์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญต่อกําไรในระยะสั้น หากมีการขายโครงการ ESP ทั้งหมด ประมาณการกําไรปี 2568-69 มีความเสี่ยงขาลงที่ 66% และ 36% ตามลําดับ 

 

แนวโน้มที่ท้าทายรออยู่ ฝ่ายวิจัยคาดว่ากําไรของ EA ในปี 2568 จะลดลง 26% YoY เหลือ 2.1 พันลบ. โดยส่วนใหญ่มาจากการหมดอายุของ adder (90MW) ของโครงการ EA Solar Lampang ในเดือนก.พ. 2568 และความท้าทายอย่างต่อเนื่องในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่ในกรณที่มีการขายโครงการ ESP ทั้งหมด กําไรอาจลดลงถึง 75% YoY เหลือ713 ลบ. เนื่องจากจะไม่มี adder ในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ของ EA อีกต่อไป

 

คงคําแนะนํา “ถือ” โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 3.80 บาท กําไรของ EA ยังคงอยู่ในทิศทางขาลงเชิงโครงสร้างจากการหมดอายุของ adder ของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ประกอบกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องในธุรกจิ EV และแบตเตอรี่ การขายโครงการ ESP ทั้งหมดที่มูลค่า 8 พันลบ. จะก่อให้เกิดความเสี่ยงขาลงต่อราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัย โดยอาจลดลง 8% เหลือ 3.50 บาท เนื่องจากมูลค่าการขายต่ำกว่ามูลค่าโครงการ ESP ในโมเดลของฝ่ายวิจัย

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง