รีเซต

XOส่องโค้งส่งท้าย กลับสู่โหมดฟื้นตัว ปั้นสินค้ากัญชงเพิ่ม

XOส่องโค้งส่งท้าย กลับสู่โหมดฟื้นตัว ปั้นสินค้ากัญชงเพิ่ม
ทันหุ้น
7 ธันวาคม 2564 ( 12:39 )
113
XOส่องโค้งส่งท้าย กลับสู่โหมดฟื้นตัว ปั้นสินค้ากัญชงเพิ่ม

 

ทันหุ้น – โบรกส่องหุ้น XO คาดผลประกอบการ ไตรมาส 4/2564 จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวต่อเนื่องไปถึงปี 2565 หลังจากประสบปัญหา Supply Chain คลี่คลาย เตรียมแผนออกกัญชงตัวใหม่ส่งท้ายปี 2564  และเร่งขยายกำลังการผลิตเร็วขึ้นกว่าเดิม หวังรองรับความต้องการของตลาด

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินแนวโน้มธุรกิจบริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO โดยผู้บริหารแจ้งว่าปัญหาขาดแคลนบรรจุภัณฑ์ของ XO ซึ่งเกิดจากการระบาดของ COVID-19เกือบจะกลับมาเป็นปกติแล้ว โดยคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น QoQ ในไตรมาส 4/2564  แต่น่าจะยังต่ำกว่า 400 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้าต้องการที่จะมั่นใจว่าปัญหา Supply Chain สะดุดจะถูกแก้ไขทั้งหมดแล้ว

 

นอกจากนี้ บริษัทยังคาดว่ารายได้จะฟื้นตัวขึ้นเป็น 400-450ล้านบาทต่อไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 1/2565 และตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ปี 2565  ไว้ที่ 10-15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

อย่างไรก็ดี XO ยังคงใช้กลยุทธ์การตลาดหลักแบบเดิม โดยการจ่ายค่า Listing Fee ให้กับกิจการค้าปลีกขนาดใหญ่ โดยตั้งงบเอาไว้ที่ 20-25 ล้านบาทในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 10-15 ล้านบาทในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังจะกลับมาจัดกิจกรรมการตลาดในต่างประเทศ โดยได้จองร่วมงาน Event ในดูไบ อังกฤษ และจีนไปแล้ว

 

ทั้งนี้จากความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดในอดีต เราเชื่อว่าการเพิ่มงบการตลาด และกิจกรรมทางการตลาดจะทำให้อัตราการเติบโตของยอดขายเร่งตัวขึ้นในระยะต่อไป

 

จ่อแผนออกกัญชงใหม่

 

บริษัทมีแผนจะวางจำหน่ายซอสกัญชงตัวใหม่ภายในปี 2564  หลังจากที่ผลิตภัณฑ์ตัวแรกได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างดี นอกจากนี้ XO ยังบอกเป็นนัยว่ากำลังพิจารณาเร่งการขยายสายการผลิตใหม่เร็วขึ้นเป็นไตรมาส 1/2565จากเดิมที่กำหนดไว้ในช่วงกลางปี 2565

 

ทั้งนี้ เมื่อประกอบกับการปรับปรุงสำนักงานของบริษัท เราจึงคิดว่าค่าเสื่อมราคาอาจจะสูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัยอีกราว 5-7 ล้านบาท แต่จะไม่ได้กระทบกับประมาณการกำไรของฝ่าวิจัยอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 เอาไว้เท่าเดิมที่ 460 ล้านบาท และปี 2565 ที่ 560 ล้านบาท และยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” XO และคงราคาเป้าหมายปี 2565 ไว้ที่ 30.00 บาท อิงจาก PER ที่ 22.7x (PER เฉลี่ยระยะยาว)

 

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงคือ เกิดข้อพิพาทกับผู้จัดจำหน่าย, การขนส่ง และ Supply Chain สะดุด, การแข่งขันในตลาด

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง