รีเซต

กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกอ่วมน้ำ ผู้ว่าฯ อัศวิน ลงพื้นที่สั่งเพิ่มเครื่องสูบเร่งระบายลงอ่าวไทย

กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกอ่วมน้ำ ผู้ว่าฯ อัศวิน ลงพื้นที่สั่งเพิ่มเครื่องสูบเร่งระบายลงอ่าวไทย
มติชน
13 ตุลาคม 2563 ( 14:26 )
170
กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกอ่วมน้ำ ผู้ว่าฯ อัศวิน ลงพื้นที่สั่งเพิ่มเครื่องสูบเร่งระบายลงอ่าวไทย
กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกอ่วมน้ำ ผู้ว่าฯ อัศวิน ลงพื้นที่สั่งเพิ่มเครื่องสูบเร่งระบายลงอ่าวไทย

 

วันนี้ (13 ตุลาคม 2563) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร โดยมี นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กทม. ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตกลุ่มกรุงเทพตะวันออก ผู้แทนกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมและบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำ ที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองแสนแสบตอนมีนบุรี เขตมีนบุรี จากนั้นเดินทางไปยังประตูระบายน้ำแสนแสบ-หนองจอก เขตหนองจอก

 

 

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม จนถึงปัจจุบัน มีฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณฝนสะสมมากกว่า 100 มิลลิเมตร และบางพื้นที่มีปริมาณฝนตกสะสมมากกว่า 200 มิลลิเมตร

 

 

“ปริมาณฝนตกสะสมดังกล่าว กลายเป็นน้ำท่าที่อยู่ตามคูคลองและตามทุ่ง ประกอบกับพื้นที่ด้านตะวันออกส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ส่งผลให้น้ำตามคลองต่างๆ มีปริมาณมาก จึงทำให้มีบางพื้นที่น้ำเอ่อล้น เช่น คลองแสนแสบ บริเวณประตูระบายน้ำคลองแสนแสบตอนมีนบุรี และคลองประเวศบุรีรมย์ บริเวณประตูระบายน้ำคลองประเวศ-ลาดกระบัง ซึ่งทั้ง 2 แห่ง ระดับน้ำด้านนอกประตูระบายน้ำอยู่ในระดับเตือนภัย ทั้งนี้ กทม.ได้บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โดยเร่งระบายน้ำในคลองแสนแสบให้ไปเข้าระบบอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าว ส่วนคลองประเวศบุรีรมย์ได้ผันน้ำมาเข้าสถานีสูบน้ำพระโขนง เพื่อสูบน้ำไปลงแม่น้ำเจ้าพระยา อีกส่วนได้ระบายลงคลองทางด้านใต้ ซึ่งเป็นรอยต่อพื้นที่ระหว่างกรุงเทพฯ กับ จ.สมุทรปราการ โดยกรมชลประทานได้สูบน้ำที่สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ สถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร ส่งต่อไปยังสถานีสูบน้ำตามแนวถนนสุขุมวิทสายเก่า จ.สมุทรปราการ จากนั้นเร่งระบายน้ำออกไปลงสู่ทะเลบริเวณอ่าวไทยอีกทอดหนึ่ง” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

นอกจากนี้ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ยังได้ประสานกรมชลฯ ในการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน โดยทางด้านตอนบนบริเวณคลองหกวาสายล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ กับ จ.ปทุมธานี ขอให้ลดบานประตูระบายน้ำลง เพื่อจำกัดปริมาณน้ำที่จะไหลเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ ในช่วงนี้ พร้อมทั้งขอให้เร่งสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำแสนแสบตอนหนองจอก เพื่อระบายน้ำออกไปทางคลองบางขนาก เพื่อให้พื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ กลับเข้าสู่ภาวะปกติต่อไป

“ปัจจุบันระดับน้ำในคลองต่างๆ ได้ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีอยู่ สำนักการระบายน้ำจึงได้ประสานกรมชลฯ อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการประชุมร่วมกันทุกสัปดาห์ เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และการบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีระบบ เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” ผู้ว่าฯ กทม.

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า วันนี้ได้มาลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ บริเวณประตูระบายน้ำคลองแสนแสบตอนมีนบุรี เขตมีนบุรี ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักการระบายน้ำ และประตูระบายน้ำแสนแสบ-หนองจอก เขตหนองจอก ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมชลฯ ในส่วนของประตูระบายน้ำแสนแสบ-หนองจอก มีเครื่องสูบน้ำกำลังสูบ 3 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)ต่อวินาที จำนวน 20 เครื่อง ขณะนี้ได้เดินเครื่องสูบน้ำ จำนวน 5 เครื่อง เพื่อระบายน้ำจากคลองแสบแสบ ออกแม่น้ำบางปะกง ไหลลงสู่อ่าวไทย

“จากการตรวจสอบขณะนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 1.24 เซนติเมตร (ซม.) โดยระดับน้ำสูงสุดไม่เกิน 1.30 ซม. ทั้งนี้ จะทดลองเดินเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมอีกเป็น 10 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออก แต่ถ้าเกิดผลกระทบต่อประชาชน จะลงลงเหลือ 4-5 เครื่องตามเดิม อย่างไรก็ตาม กทม.ได้ประสานกรมชลฯ ในการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน โดยมีการประชุมทุกวันจันทร์ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้รับผลกระทบจากน้ำฝนที่ลงมาจำนวนมาก พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย เราจึงหาแนวทางในการบริการจัดการน้ำ เพื่อป้องก้นไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน หรือส่งผลกระทบน้อยที่สุดทั้งพื้นที่ชั้นนอกและพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง