จับตาเส้นทางน้ำเหนือ–อีสาน–กลาง ลงสู่อ่าวไทย ระดับน้ำหลายจุดยังสูงเกินเกณฑ์

กรมชลประทานรายงานสถานการณ์น้ำล่าสุด (7 พ.ย. 2568 เวลา 10.00 น.) โดยแสดง “แผนผังการระบายน้ำ” จากภาคเหนือจรดภาคกลาง พบว่าปริมาณน้ำในหลายลุ่มน้ำยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะ ลุ่มน้ำยม–น่าน–ปิง–วัง ที่ไหลรวมเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนระบายต่อเนื่องลงสู่อ่าวไทย ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และสมุทรสาคร
ในพื้นที่ตอนบนของประเทศ
- แม่น้ำปิง (เชียงใหม่–กำแพงเพชร) ระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเขื่อนภูมิพลมีน้ำเก็บกักกว่า 13,462 ล้าน ลบ.ม. หรือ 98% ของความจุ
- แม่น้ำวัง (ลำปาง–กำแพงเพชร) เขื่อนกิ่วคอหมาเก็บน้ำ 184 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนแม่ยมมีการระบายน้ำต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำจังหวัดแพร่และสุโขทัย
- แม่น้ำน่าน (อุตรดิตถ์–พิษณุโลก) เขื่อนสิริกิติ์เก็บน้ำ 9,258 ล้าน ลบ.ม. (91%) และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน 945 ล้าน ลบ.ม. (101%) ถือว่าสูงเกินเกณฑ์เฝ้าระวัง
ส่วนพื้นที่ ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์ลงมา ปริมาณน้ำรวมที่ไหลผ่านจุดวัดสำคัญ (สถานี C.2) อยู่ที่ประมาณ 2,730 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยมีการควบคุมการระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระรามหก เพื่อไม่ให้กระทบพื้นที่ลุ่มต่ำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและอ่างทอง
ในภาคกลางตอนล่าง
- เขื่อนท่าดินแดง สุพรรณบุรี ระบายน้ำต่อเนื่อง 401 ลบ.ม./วินาที
- เขื่อนแม่กลอง สุพรรณบุรี–ราชบุรี เก็บน้ำ 960 ล้าน ลบ.ม. (98%)
- เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี อยู่ในระดับ 299–212 ล้าน ลบ.ม. พร้อมรองรับน้ำเหนือก่อนลงสู่แม่น้ำแม่กลองและแม่น้ำท่าจีน
ขณะที่ปลายน้ำบริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระดับน้ำที่สถานี C.29B ปากเกร็ด วัดได้ 2,307 ลบ.ม./วินาที และที่สถานี C.35 บางไทร อยู่ที่ 1,481 ลบ.ม./วินาที แสดงให้เห็นการควบคุมการระบายลงสู่อ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง โดยกรมชลประทานยืนยันว่าระบบประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยาทำงานเต็มศักยภาพ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
