เงินบาทเช้านี้ 17 ธ.ค. 2568 เปิดตลาด “แข็งค่า” ที่ระดับ 31.47 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 31.47 บาทต่อดอลลาร์ จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ 31.51 บาทต่อดอลลาร์ โดยทิศทางเงินบาทยังคงแกว่งตัวในลักษณะ Sideways Down ตามการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อน บอนด์ยีลด์สหรัฐลด หนุนเงินบาทแข็งค่า
นับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น ทดสอบโซน 31.40 บาทต่อดอลลาร์ สอดคล้องกับการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับลดลง และราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น จากมุมมองของตลาดที่เชื่อมั่นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปีหน้า มากกว่าที่สะท้อนใน Dot Plot ล่าสุด
ปัจจัยดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแย่กว่าคาด ทั้งการจ้างงานนอกภาคเกษตร ยอดค้าปลีก และดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการ อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนจากภาวะระมัดระวังความเสี่ยงของตลาด และการอ่อนค่าของเงินยูโร รวมถึงการชะลอการแข็งค่าของเงินเยน ก่อนการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
หุ้นสหรัฐผันผวน หุ้นยุโรปร่วง กดดันบรรยากาศลงทุนโลก
บรรยากาศตลาดหุ้นสหรัฐยังคงอยู่ในโหมดระมัดระวัง หลังข้อมูลเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอ โดยดัชนี S&P500 ปิดลบ 0.24% จากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานและเฮลธ์แคร์ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะธีม AI และ Semiconductor รีบาวด์ขึ้น ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 0.23%
ด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวลง 0.47% ถูกกดดันจากหุ้นพลังงานและกลุ่มอุตสาหกรรมทหาร หลังการเจรจายุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนมีความคืบหน้า ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
บอนด์ยีลด์สหรัฐย่อตัว หนุนมุมมองซื้อพันธบัตรระยะยาว
ตลาดบอนด์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ทำให้บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปี ปรับลดลงมาอยู่ที่ราว 4.15% โดย Krungthai GLOBAL MARKETS มองว่าปัจจัยกำหนดทิศทางบอนด์ยีลด์ยังคงเป็นแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด สถานะการคลังสหรัฐ และบรรยากาศการลงทุน พร้อมแนะนำกลยุทธ์ทยอยซื้อพันธบัตรระยะยาวในจังหวะที่บอนด์ยีลด์ปรับขึ้น โดยระดับเหนือ 4.20% ยังถือว่าน่าสนใจ
จับตาประชุม กนง. วันนี้ คาดลดดอกเบี้ย 0.25%
ไฮไลท์สำคัญในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า อยู่ที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย โดยประเมินว่า กนง. อาจลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.25% เพื่อพยุงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และบรรเทาภาระหนี้ครัวเรือนและภาคธุรกิจ SMEs
ขณะเดียวกัน ตลาดยังติดตามการประชุมธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ซึ่งคาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 4.75% รวมถึงการรายงานเงินเฟ้อ CPI ของอังกฤษ และดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนี
แนวโน้มเงินบาทยังแข็งค่า แต่ผันผวนสูง
Krungthai GLOBAL MARKETS ยังคงมองว่าเงินบาทอยู่ในแนวโน้มแข็งค่า และมีโอกาสแข็งค่ามากกว่าระดับสิ้นปีที่ประเมินไว้ราว 31.85 ± 0.25 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ดี โมเมนตัมเริ่มชะลอลง จากสัญญาณการดูแลค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย และความกังวลของภาครัฐ
ทั้งนี้ เงินบาทอาจผันผวนสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยทิศทางระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับผลประชุม กนง. และสัญญาณนโยบายการเงินในระยะถัดไป โดยคาดว่าในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.40 - 31.60 บาทต่อดอลลาร์
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
