SAVเที่ยวกัมพูชาบูมโต60% ปลอดหนี้-จ่อปันผล0.75บ.
SAV เผยปลอดหนี้หลังระดมทุน ลุยขยายฐาน จ่อเคาะปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.75 บาท คาดชัดเจนไม่เกินพฤศจิกายน 2566 นี้ ด้านบิ๊ก "ธีระชัย พงศ์พนางาม" ฟุ้งจ่อรับทรัพย์ไฮซีซัน หนุน Q4/2566 ฟอร์มแจ่ม พร้อมปักเป้าปี 2566 รายได้ทะยาน 60% จากปีก่อน รับอานิสงส์เที่ยวบินกลับมาคึกคัก
นายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท คาดน่าจะได้เห็นความชัดเจนไม่เกินเดือนพฤศจิกายน2566
ปีนี้ผงาดโต 60%
ขณะที่แนวโน้มผลงานในไตรมาส 4/2566 บริษัทประเมินว่าดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส3/2566 เพราะเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซัน) ของประเทศกัมพูชา ส่งผลให้มีเครื่องบินขึ้นลงและบินผ่านน่านฟ้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้รายได้ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ดี ในปี 2566 ทาง SAV ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตราว60% เมื่อเทียบกับปี 2565 เนื่องจากภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศกัมพูชาและเวียดนามมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณการจราจรผ่านน่านฟ้าของกัมพูชาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ
นำเงินอัพฐานธุรกิจ
"เงินการระดมทุนครั้งนี้นั้นบริษัทจะนำไปใช้รองรับการขยายธุรกิจ รวมทั้งเพิ่มโอกาสในอนาคต ซึ่งในส่วนของชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของSAV ที่เดิมต้องมีจ่ายดอกเบี้ยปีละ70-80 ล้านบาทหายไป และกลายเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้สิน รวมทั้งต้นดอกเบียข้างต้นจะกลับมาช่วยเพิ่มผลงานในปี2567 ให้ดียิ่งขึ้นด้วย"
นอกจากนี้ ทาง SAV ยังมีจุดแข็งด้านศักยภาพธุรกิจแกร่ง เพราะเป็นบริษัทเดียวที่ได้รับสัญญาสัมปทาน (ไลเซนส์) เพียงรายเดียวในฐานะผู้ให้บริการวิทยุการบินแห่งเดียวในกัมพูชา ซึ่งถือว่าไร้คู่แข่ง และมีไลเซนส์เหลือถึงอีก28 ปี (สามารถต่อเพิ่มได้) รวมทั้งยังได้สิทธิ์ในบริหารจัดการระบบการจราจรทางอากาศซึ่งครอบสนามบินใหม่ๆ ของกัมพูชาที่กำลังทยอยขยายเพิ่มเติมในอนาคตทั้งหมด เพื่อรองรับเติบโตรับอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวที่จะกลับมาเติบโตสูง ซึ่งสนับสนุนการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
สตอรี่เด่นกำไรยาว
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) คาดการเติบโตกำไรสุทธิของSAV จะเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ที่ระดับ25.2% ในช่วงปี 2566-2570 ทั้งนี้ การเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงปี2566-2570 นั้นเพราะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของรายได้Overflight จากการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาค และการเติบโตของรายได้ Landing and Take-Off ทั้ง International และ Domestic จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในกัมพูชา รวมถึงการประหยัดต่อขนาดของกลุ่มบริษัทจะหนุนให้อัตรากำไรเพิ่มสูงขึ้นในอัตราเร่งตัว
ขณะที่โครงสร้างทางการเงินของบริษัทจะไม่มีหนี้ หลังจาก IPO จะได้ Weighted Average Cost of Capital (WACC) ที่11.5% โดยการประเมินค่าคิดลดเงินสดในปี 2566 จนถึงปี 2594 (ปีที่สิ้นสุดสัมปทาน) จะได้มูลค่าที่ประมาณ1.73 หมื่นล้านบาท
เคาะเป้าหมาย27บ.
ดังนั้น จากปัจจัยเหล่านี้ ประกอบกับพื้นฐานของ SAV ที่แข็งแกร่งขึ้นค่อนข้างมาก ภายหลังการเสนอขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ฝ่ายวิคราะห์จึงมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนหุ้นSAV ในอนาคตต่อไป ฝ่ายวิจัยให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น SAV ราคาเป้าหมาย 27.00 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด(มหาชน) ระบุว่าการเติบโตของSAV น่าจะมาจากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่สดใสของกัมพูชาและเวียดนามนอกจากนี้รัฐบาลกัมพูชายังได้พัฒนาสนามบินใหม่อีก 3 แห่ง (Siem Reap, Dara Sakor, และ PhnomPenh) โดยมีกำหนดเปิดในปี2566-2568 ซึ่ง CATS จะได้สิทธิสัมปทานโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้SAV น่าจะกลายเป็นบริษัทที่มีเงินสดสุทธิพร้อม EBITDA ที่ 0.8-1.0พันล้านบาท ในปี2567-2568จากกระแสรายได้ที่ดีและความต้องการเงินลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำ SAV มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตรา 50% จากแบบจำลองของเรา SAV อาจจ่ายเงินปันผลได้สูงถึง 70-80% โดยราคา IPO ถูกเมื่อเทียบกับกลุ่มเราประเมิน SAV โดยใช้วิธี DCF และได้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 26 บาท