ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ หลังไทยถูกกดดันโดนภาษี 36%

#ทันหุ้น - บล.ดาโอ คาดดัชนีฯ ผันผวน ตลาดถูกกดดัน หลังไทยโดนภาษี 36% เพราะเจรจารอบแรกไม่ถูกใจสหรัฐฯ โดยตลาดหุ้นไทย วันนี้ ยังน่าจะผันผวนและดัชนีฯ อาจติดในแดนลบ จนกว่าจะมีความชัดเจน หรือผลการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ หลังไทยส่งข้อเสนอรอบสองไปแล้ว ส่วนบรรยากาศการเมือง ช่วงนี้ ยังเป็นช่วงของการรอคอยมากกว่า
• ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศ เมื่อคืนที่ผ่านมา(7) ว่า 14 ประเทศจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. โดยจะมีบางประเทศถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้น สำหรับประเทศไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับที่ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เม.ย.
• รมว. คลัง แจ้งว่าได้ยื่นข้อเสนอการค้าให้สหรัฐฯไปแล้ว เมื่อวันอาทิตย์(6) มีการปรับปรุงอัตราภาษีนำเข้ากับสินค้าสหรัฐฯ 0% หลายรายการ และการที่ไทยเป็น 1 ใน 14 ประเทศที่ได้รับจดหมาย แม้จะเป็นข่าวที่เป็นลบ แต่ยังมีรวมข้อเสนอใหม่ที่ยื่นไป และไทยยังมีเวลาจนถึง 1 ส.ค. ตลาดวันนี้ อาจเป็นลบจากตัวเลขที่ออกมา แต่การเจรจาที่ยังไม่จบ เราจึงไม่ควรมองลบมากจนเกินไป รวมทั้ง หุ้นที่อิงกับเรื่องของภาษีนั้น มีขนาดไม่ใหญ่ในตลาดหุ้นไทย
• จีนกำลังพิจารณาเพิ่มช่องทางการลงทุนเป็นสองเท่าที่นักลงทุนในประเทศใช้ในการซื้อพันธบัตรในต่างประเทศ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ทราบเรื่องดังกล่าว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพยายามคลายข้อจำกัดเกี่ยวกับการไหลเวียนทางการเงิน ช่วงนี้ จีนเจอประเด็นเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจไม่ค่อยดี และการเจรจาการค้า ข่าวนี้ น่าจะช่วยลดแรงกดดันลงไปได้ระดับหนึ่ง
• มีการยื่นขอถอนร่าง Entertainment Complex ออกจากวาระการประชุมสภาฯ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนครม. จึงต้องการหารืออย่างรอบคอบอีกครั้ง ก.คลังซึ่งเป็นเจ้าของร่าง เตรียมยื่นเสนอขอถอนร่างในการประชุมครม.วันนี้
• ฤดูกาลเก็งงบการเงิน 2Q/25 มาถึงแล้ว เราประเมินกำไรตลาด จะอยู่ในช่วง2.1-2.3 แสนล้านบาท ซึ่งต่ำกว่า 1Q/25 ที่ 2.82 แสนล้านบาท .... DAOL ประเมินกำไรกลุ่มธนาคาร ซึ่งเป็นกลุ่มที่ส่งรายงานเป็นอันดับแรก ไว้ที่ 5.3 หมื่นล้านบาท -2% yoy ; -10 qoq ใกล้เคียงกับ Bloomberg Survey
• Event วันนี้ : ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวนพยานคดีชั้น 14, การประชุม ครม.
#Strategy
• ตลาด ตกหล่มด้วย 2 ตัวแปรใหญ่ ที่ยังไม่รู้ทิศทาง คือ ผลการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ขั้นสุดท้าย และสถานะของนายกฯ ซึ่งเราประเมินว่า ผลของทั้งสองเรื่อง ไม่น่าที่จะกระชากดัชนีฯลงไปทำ new low หรือดัชนีฯ ลงต่ำกว่า 1000 จุดได้ ยกเว้นจะเกิด big surprise คือ ยุบสภาฯ หรือไทยไปติดกลุ่ม 3 ในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เมื่อถึง 1 ส.ค.
กลยุทธ์ ยังเป็นการขายทำกำไรช่วงสั้น และทยอยจัดหุ้นชุดใหม่เข้าพอร์ต โดยเลือกหุ้นที่ราคาไม่แรง ผสมกับหุ้นที่มีปัจจัยบวกสนับสนุน
• ควรเลี่ยงหรือใช้ความระมัดระวัง ในการลงทุนหุ้นมีปัจจัยลบในช่วงนี้ ถ้าเป็นเรื่องเจรจาการค้าคือ หุ้นส่งออกและกลุ่มนิคมฯ ส่วนหุ้นที่อิงการเมือง จะเป็นหุ้นที่มีการรับงานหรือมีสัมปทานกับภาครัฐฯ
• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ AMATA*, CBG, KTC* ออก และนำ TTB, CPAXT* เข้ามาในพอร์ต หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย TTB(10%), CPAXT*(10%), TOP(10%), SCB(10%)
#Technical : NCAP, SMT
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
