ถึงเวลา “รถบินได้” สยายปีกในแดนมังกร (จบ)

อีกกิจการหนึ่งที่มาแรงก็ได้แก่ บริษัท XPeng AeroHT (เอ็กซ์เผิง แอโรเอชที) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ XPeng ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังของจีน ที่เปิดตัวและทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าบินได้ “แบบไร้คนขับ” เป็นครั้งแรกเมื่อกลางปี 2024 ที่เมืองหลางฟาง (Langfang) ในมณฑลเหอเป่ย ไม่ไกลจากกรุงปักกิ่งนัก ต่อหน้าสื่อมวลชนและผู้สนใจนับพันคน
รถยนต์บินได้รุ่น “Voyager X2” (โวยาจเจอร์ เอ็กซ์ทู) นี้ มีน้ำหนัก 680 กิโลกรัม และมี 2 ที่นั่งที่รองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 160 กิโลกรัม โดยการทดสอบแสดงให้เห็นว่า รถยนต์สามารถลอยตัวขึ้นและลงจอดในแนวดิ่งโดยไม่มีคนขับหรือผู้โดยสารเป็นเวลา 2 นาที แต่วิศวกรของบริษัทผู้ผลิตให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รถบินได้รุ่นนี้สามารถขึ้นบินได้เป็นเวลา 25 นาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รถบินได้รุ่นนี้ออกแบบมาให้เดินทางเป็นระยะใกล้ภายในเขตเมือง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 100% เพราะไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเลย วิศวกรยังกล่าวเสริมว่า ผู้ขับขี่สามารถเรียนรู้วิธีการบังคับและควบคุมรถในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ในระหว่างงาน CIIE 2025 บริษัท Xpeng AeroHT ยังเปิดเผยว่า บริษัทได้เริ่มทดลองเดินสายการผลิตในโรงงานผลิตอัจฉริยะที่ผลิตรถยนต์บินได้แห่งแรกของโลกแล้ว
โรงงานแห่งนี้มีขนาด 120,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในเขตหวงผู่ (Huangpu) ของนครกวางโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง บริเวณ “ท้องไก่” ของจีน พร้อมเปิดตัว “เครื่องบินไฟฟ้าแบบแยกส่วน” (Detachable Electric Aircraft) ลำแรกของโลก
กล่าวคือ รถบินได้ประกอบด้วย “ยานแม่” รถบรรทุกภาคพื้นดิน (Land Carrier) ขนาด 6 ล้อที่มีความยาว 5.5 เมตร กว้าง 2 เมตร และสูง 2 เมตร ซึ่งสามารถขับขี่บนถนนสาธารณะได้ด้วยใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ทั่วไปและเข้าจอดในพื้นที่ปกติได้ พร้อมระบบขับเคลื่อนเต็มรูป ระบบช่วงล่างดังกล่าวมีความสามารถในการรับน้ำหนักและการขับขี่ออฟโรด
อีกส่วนหนึ่งเป็นเครื่องบินไฟฟ้าแบบ 6 ใบพัดที่สามารถขึ้นลงแนวดิ่ง ลำตัวเป็นคาร์บอนไฟเบอร์และใบพัดที่ปรับสมดุลความแข็งแรงและน้ำหนัก รวมทั้งสามารถถอดออกจากและรวมเป็นหนึ่งกับยานแม่ได้
ตัวเครื่องบินมีทั้งโหมดการบินอัตโนมัติและแบบบังคับโดยมนุษย์ ระบบอัตโนมัติยังสามารถวางแผนเส้นทางได้อย่างเป็นอัจฉริยะ และสามารถบินขึ้นลงได้ด้วยเพียงสัมผัสเดียว ขณะที่ห้องนักบินก็เป็นแบบพาโนรามาที่เปิดกว้างถึง 270 องศา
นอกจากนี้ บริษัทยังได้นำเอาตัวเครื่องบินไปทดสอบครั้งแรกต่อหน้าสาธารชนเมื่อเดือนมีนาคม 2025 ณ ทะเลสาบในมณฑลหูหนาน
โรงงานนี้มีกำลังการผลิตปีละ 10,000 โมดูลเครื่องบิน (ที่ถอดออกได้) โดยระยะแรกจะมีกำลังการผลิตเริ่มต้นที่ 5,000 หน่วย ซึ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาโรงงานผลิตรถบินได้ทุกประเภทในปัจจุบัน และเมื่อเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต จะสามารถประกอบเครื่องบินแต่ละลำโดยใดยใช้เวลา 30 นาที
ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า Xpeng AeroHT คาดว่าจะมีสนนราคาอยู่ที่ราวคันละ 2 ล้านหยวน หรือเฉียด 10 ล้านบาท ทั้งนี้ นับแต่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Xpeng AeroHT ได้รับคำสั่งซื้อรถยนต์บินได้ล่วงหน้ามาแล้วราว 7,000 คัน และมีกำหนดจะส่งมอบชุดแรกในปี 2026
นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศแผนในงานวันปัญญาประดิษฐ์ของเอ็กซ์เผิง 2025 (2025 XPENG AI Day) ที่ไลฟ์สตรีมมิ่งออกไปทั่วโลก เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2025 ณ XPENG Science Park (สวนวิทยาศาสตร์เอ็กซ์เผิง) ในนครกวางโจว เปิดตัวแอปบริการรถบินได้ที่สำคัญที่มี “Physical AI” และประกาศจะเปิดให้บริการ “Robotaxi” ถึง 3 รุ่นภายในปี 2026
ขณะเดียวกัน Xpeng ยังประกาศจับมือกับ Amap กิจการทำแผนที่ดิจิตัลของ Alibaba เพื่อเปิดบริการ Robotaxi ดังกล่าว ขณะที่ค่ายรถยนต์ไร้คนขับอื่นอย่าง WeRide และ Pony.ai ก็จะเข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งคาดว่าความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นพื้นฐานที่ดีในการต่อยอดสู่บริการ “แท็กซี่อากาศ” ต่อไปในอนาคต
จีนยังมีสตาร์ตอัพอีกหลายรายที่ “รอจังหวะ” ที่จะกระโดดเข้ามาขอแบ่งเค้กก้อนใหญ่นี้ในอนาคต แต่สำหรับผู้สนใจอยากจะครอบครองเป็นเจ้าของ “รถบินได้” เหล่านี้ ผมก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะคาดว่าจีนจะกำหนดให้ใช้ในรูปแบบของบริการสาธารณะเป็น “แท๊กซี่อากาศ” มิใช่เพื่อวางจำหน่ายในท้องตลาดแก่บุคคลทั่วไปในจีน
จนถึงปัจจุบัน ทางการจีนกำลังเร่งหาข้อสรุปเกี่ยวกับ “อนาคตของการเดินทาง” ในหลากหลายประเด็นสำคัญ อาทิ มาตรฐานความปลอดภัย การฝึกอบรมนักบิน และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
หลายฝ่ายจึงประเมินว่า การเปิดบริการนำร่อง “แท๊กซี่บินได้” ในหัวเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ใกล้เข้ามาทุกขณะ และอาจเริ่มเร็วที่สุดได้ในช่วงต้นปี 2026
ประการสำคัญ นอกจากตลาดจีนแล้ว ผู้ผลิตรถบินได้ในจีนยังเปี่ยมไปด้วย “ความกระชุ่มกระชวย” เมื่อพบว่าต่างชาติให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยมีกระแสข่าวการลงนามในความตกลงและจดหมายแสดงเจตน์จำนงหลายฉบับในระหว่างงาน CIIE 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งดีลใหญ่จากหลายประเทศในยุโรปและตะวันออกกลาง
ภายใต้แนวคิดการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง จีนกำลังเร่งผลักดันการพัฒนาให้เศรษฐกิจ “ระดับการบินต่ำ” ขึ้นเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจ “ดาวรุ่งใหม่” ที่สูงเด่นของการขนส่งแห่งโลกอนาคต
แล้วไทยเราจะไปทิศทางไหน อย่างไรดีครับ ...
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
