รีเซต

ถึงเวลา “รถบินได้” สยายปีกในแดนมังกร (จบ)

ถึงเวลา “รถบินได้” สยายปีกในแดนมังกร (จบ)
TNN ช่อง16
27 พฤศจิกายน 2568 ( 14:24 )
9

อีกกิจการหนึ่งที่มาแรงก็ได้แก่ บริษัท XPeng AeroHT (เอ็กซ์เผิง แอโรเอชที) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ XPeng ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังของจีน ที่เปิดตัวและทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าบินได้ “แบบไร้คนขับ” เป็นครั้งแรกเมื่อกลางปี 2024 ที่เมืองหลางฟาง (Langfang) ในมณฑลเหอเป่ย ไม่ไกลจากกรุงปักกิ่งนัก ต่อหน้าสื่อมวลชนและผู้สนใจนับพันคน

รถยนต์บินได้รุ่น “Voyager X2” (โวยาจเจอร์ เอ็กซ์ทู) นี้ มีน้ำหนัก 680 กิโลกรัม และมี 2 ที่นั่งที่รองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 160 กิโลกรัม โดยการทดสอบแสดงให้เห็นว่า รถยนต์สามารถลอยตัวขึ้นและลงจอดในแนวดิ่งโดยไม่มีคนขับหรือผู้โดยสารเป็นเวลา 2 นาที แต่วิศวกรของบริษัทผู้ผลิตให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รถบินได้รุ่นนี้สามารถขึ้นบินได้เป็นเวลา 25 นาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รถบินได้รุ่นนี้ออกแบบมาให้เดินทางเป็นระยะใกล้ภายในเขตเมือง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 100% เพราะไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเลย วิศวกรยังกล่าวเสริมว่า ผู้ขับขี่สามารถเรียนรู้วิธีการบังคับและควบคุมรถในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น ในระหว่างงาน CIIE 2025 บริษัท Xpeng AeroHT ยังเปิดเผยว่า บริษัทได้เริ่มทดลองเดินสายการผลิตในโรงงานผลิตอัจฉริยะที่ผลิตรถยนต์บินได้แห่งแรกของโลกแล้ว

โรงงานแห่งนี้มีขนาด 120,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในเขตหวงผู่ (Huangpu) ของนครกวางโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง บริเวณ “ท้องไก่” ของจีน พร้อมเปิดตัว “เครื่องบินไฟฟ้าแบบแยกส่วน” (Detachable Electric Aircraft) ลำแรกของโลก
กล่าวคือ รถบินได้ประกอบด้วย “ยานแม่” รถบรรทุกภาคพื้นดิน (Land Carrier) ขนาด 6 ล้อที่มีความยาว 5.5 เมตร กว้าง 2 เมตร และสูง 2 เมตร ซึ่งสามารถขับขี่บนถนนสาธารณะได้ด้วยใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ทั่วไปและเข้าจอดในพื้นที่ปกติได้ พร้อมระบบขับเคลื่อนเต็มรูป ระบบช่วงล่างดังกล่าวมีความสามารถในการรับน้ำหนักและการขับขี่ออฟโรด

อีกส่วนหนึ่งเป็นเครื่องบินไฟฟ้าแบบ 6 ใบพัดที่สามารถขึ้นลงแนวดิ่ง ลำตัวเป็นคาร์บอนไฟเบอร์และใบพัดที่ปรับสมดุลความแข็งแรงและน้ำหนัก รวมทั้งสามารถถอดออกจากและรวมเป็นหนึ่งกับยานแม่ได้

ตัวเครื่องบินมีทั้งโหมดการบินอัตโนมัติและแบบบังคับโดยมนุษย์ ระบบอัตโนมัติยังสามารถวางแผนเส้นทางได้อย่างเป็นอัจฉริยะ และสามารถบินขึ้นลงได้ด้วยเพียงสัมผัสเดียว ขณะที่ห้องนักบินก็เป็นแบบพาโนรามาที่เปิดกว้างถึง 270 องศา

นอกจากนี้ บริษัทยังได้นำเอาตัวเครื่องบินไปทดสอบครั้งแรกต่อหน้าสาธารชนเมื่อเดือนมีนาคม 2025 ณ ทะเลสาบในมณฑลหูหนาน

โรงงานนี้มีกำลังการผลิตปีละ 10,000 โมดูลเครื่องบิน (ที่ถอดออกได้) โดยระยะแรกจะมีกำลังการผลิตเริ่มต้นที่ 5,000 หน่วย ซึ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาโรงงานผลิตรถบินได้ทุกประเภทในปัจจุบัน และเมื่อเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต จะสามารถประกอบเครื่องบินแต่ละลำโดยใดยใช้เวลา 30 นาที

ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า Xpeng AeroHT คาดว่าจะมีสนนราคาอยู่ที่ราวคันละ 2 ล้านหยวน หรือเฉียด 10 ล้านบาท ทั้งนี้ นับแต่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Xpeng AeroHT ได้รับคำสั่งซื้อรถยนต์บินได้ล่วงหน้ามาแล้วราว 7,000 คัน และมีกำหนดจะส่งมอบชุดแรกในปี 2026


นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศแผนในงานวันปัญญาประดิษฐ์ของเอ็กซ์เผิง 2025 (2025 XPENG AI Day) ที่ไลฟ์สตรีมมิ่งออกไปทั่วโลก เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2025 ณ XPENG Science Park (สวนวิทยาศาสตร์เอ็กซ์เผิง) ในนครกวางโจว เปิดตัวแอปบริการรถบินได้ที่สำคัญที่มี “Physical AI” และประกาศจะเปิดให้บริการ “Robotaxi” ถึง 3 รุ่นภายในปี 2026

ขณะเดียวกัน Xpeng ยังประกาศจับมือกับ Amap กิจการทำแผนที่ดิจิตัลของ Alibaba เพื่อเปิดบริการ Robotaxi ดังกล่าว ขณะที่ค่ายรถยนต์ไร้คนขับอื่นอย่าง WeRide และ Pony.ai ก็จะเข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งคาดว่าความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นพื้นฐานที่ดีในการต่อยอดสู่บริการ “แท็กซี่อากาศ” ต่อไปในอนาคต

จีนยังมีสตาร์ตอัพอีกหลายรายที่ “รอจังหวะ” ที่จะกระโดดเข้ามาขอแบ่งเค้กก้อนใหญ่นี้ในอนาคต แต่สำหรับผู้สนใจอยากจะครอบครองเป็นเจ้าของ “รถบินได้” เหล่านี้ ผมก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะคาดว่าจีนจะกำหนดให้ใช้ในรูปแบบของบริการสาธารณะเป็น “แท๊กซี่อากาศ” มิใช่เพื่อวางจำหน่ายในท้องตลาดแก่บุคคลทั่วไปในจีน

จนถึงปัจจุบัน ทางการจีนกำลังเร่งหาข้อสรุปเกี่ยวกับ “อนาคตของการเดินทาง” ในหลากหลายประเด็นสำคัญ อาทิ มาตรฐานความปลอดภัย การฝึกอบรมนักบิน และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

หลายฝ่ายจึงประเมินว่า การเปิดบริการนำร่อง “แท๊กซี่บินได้” ในหัวเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ใกล้เข้ามาทุกขณะ และอาจเริ่มเร็วที่สุดได้ในช่วงต้นปี 2026

ประการสำคัญ นอกจากตลาดจีนแล้ว ผู้ผลิตรถบินได้ในจีนยังเปี่ยมไปด้วย “ความกระชุ่มกระชวย” เมื่อพบว่าต่างชาติให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยมีกระแสข่าวการลงนามในความตกลงและจดหมายแสดงเจตน์จำนงหลายฉบับในระหว่างงาน CIIE 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งดีลใหญ่จากหลายประเทศในยุโรปและตะวันออกกลาง

ภายใต้แนวคิดการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง จีนกำลังเร่งผลักดันการพัฒนาให้เศรษฐกิจ “ระดับการบินต่ำ” ขึ้นเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจ “ดาวรุ่งใหม่” ที่สูงเด่นของการขนส่งแห่งโลกอนาคต
แล้วไทยเราจะไปทิศทางไหน อย่างไรดีครับ ...

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง