สรุป 5 ประเด็นร้อน สตง.แจงปมตึกถล่ม-เร่งปรับแบบก่อสร้างใหม่
กมธ.ติดตามงบฯ หารือปมตึกใหม่ สตง.ถล่ม ผู้แทน สตง.แจงละเอียด 5 ประเด็นหลัก ทั้งงบ-สัญญา-โครงสร้าง-การตรวจสอบ และแผนสร้างใหม่แนวราบ
เมื่อวันที่ 10 เมษายน เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมี นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน ได้ประชุมพิจารณาโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ที่พังถล่มลงมาโดยไม่ควรเกิดขึ้น พร้อมเชิญผู้แทนหลายหน่วยงานร่วมชี้แจง
นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะโฆษก สตง. ได้แถลงข้อมูลสำคัญ 5 ประเด็นหลัก ดังนี้
1. ความคืบหน้าและปัญหาการก่อสร้าง
โครงการเริ่มสัญญาก่อสร้างวันที่ 1 ม.ค. 2564 กำหนดแล้วเสร็จ 31 ธ.ค. 2566 แต่มีการขอขยายเวลา 2 ครั้ง จากสถานการณ์โควิดและการปรับแบบ ล่าสุดขยายถึง 14 มิ.ย. 2568 โดยไม่มีค่าปรับในสัญญา ใช้งบไปแล้ว 966 ล้านบาท จากทั้งหมด 2,136 ล้านบาท แม้เดิมตั้งราคากลางไว้ที่ 2,522 ล้านบาท
2. โครงสร้าง-วัสดุเป็นไปตามมาตรฐาน
สตง.ชี้แจงว่า เหล็กที่ใช้เป็นเหล็กตัวทีตาม มอก. และมีการทดสอบความแข็งแรง เช่นเดียวกับคอนกรีตที่ผ่านมาตรฐานความทนแรงอัดกว่า 400 KSC สูงกว่าที่กำหนด ส่วนเสาโครงสร้างมีการตรวจวัดจริง ไม่ได้ลดต้นทุนจนกระทบความมั่นคง
3. ปรับแบบใหม่-ไม่สร้างทับจุดเดิม
ภายหลังตึกถล่ม สตง.เตรียมปรับแบบจากตึกสูงเป็นแนวราบ ใช้พื้นที่เพิ่มจากการเช่าที่ดินการรถไฟฯ อีก 4 ไร่ โดยจะใช้เทคโนโลยีทำงานทันสมัย แต่ลดสเปกอาคาร เช่น ใช้แอร์ติดผนังธรรมดา ลดค่าใช้จ่ายให้อยู่ในกรอบงบที่เหลือไม่เกิน 2,000 ล้านบาท
4. การตรวจสอบและความโปร่งใส
สตง.จับมือองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ลงนามข้อตกลงคุณธรรมกับกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี โดย สตง.ออกค่าธรรมเนียมกรรมการอิสระปีละ 2 แสนบาท รวม 3 ปี เพื่อให้การบริหารสัญญามีความโปร่งใส และย้ำว่า หากเกิดการออกแบบผิดพลาด สตง.พร้อมรับผิด แต่ขอให้การสอบสวนมาจากคนนอกเพื่อความเป็นกลาง
5. คำชี้แจงกรณี “เฟอร์นิเจอร์หรู”
รองผู้ว่าการ สตง. ยืนยันการตกแต่งภายในเป็นไปตามมาตรฐานองค์กรที่ต้องต้อนรับผู้แทนระดับโลก พร้อมรับว่ามีห้องรับรองราคาสูงจริง และหากเห็นว่าไม่สมควร จะปรับลดในโครงการถัดไป ย้ำว่าข้าราชการทั่วไปไม่ได้อยู่ในห้องหรูนั้น
“เราตรวจใคร ก็ต้องตรวจตัวเองให้หนักกว่า” นายสุทธิพงษ์กล่าวทิ้งท้าย พร้อมยืนยันว่า สตง.จะเดินหน้าสร้างอาคารใหม่ด้วยความรอบคอบ ไม่ให้เหตุการณ์เดิมซ้ำรอยอีกครั้ง