"เบน สมิธ" ตัวละครสะเทือนอำนาจ อนุทิน-เอกนิติ ชี้แจงภาพหลุดอย่างไรบ้าง ?

อนุทิน เปิดเผยกับรายการเรื่องเล่าเช้านี้ วันที่ 4 ธ.ค. ว่า ภาพที่อนุทิน ยืนอยู่มุมขวาสุด และมีเบน สมิธ ร่วมเฟรมนั้น เกิดขึ้นหลังการรัฐประหารปี 2557 ที่สิงคโปร์
อนุทิน ได้ไปเจอกับคณะของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก และได้พบเจอกับนายเบน สมิธ ที่นั่น แต่ยืนกรานว่าไม่ได้คบหา
อนุทินให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่อว่า กรณีนายเบน สมิธ เขาเองนั่นแหละที่พยายามกีดกันไม่ให้ได้สัญชาติไทย ในสมัยที่เขาเป็น รมว.มหาดไทย ในรัฐบาลเพื่อไทย และนี่เองก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลเพื่อไทย พยายามเอาเขาออกจากการเป็น รมว.มหาดไทย
สิ่งที่พิสูจน์ว่า เคยถ่ายรูปด้วยแต่ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้เบน สมิธ ก็คือการที่รัฐบาลอนุทิน เดินหน้ายึดทรัพย์นายเบน สมิธ ตลอดจนยิม เลียก ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน จนถึงกับต้องเอ่ยว่า You Know me Little Go หรือคุณรู้จักผมน้อยไป
เรื่องนี้ยังเป็นสิ่งที่สื่อมวลชนสอบถามนายกฯ ต่อเนื่อง จนอนุทินอธิบายว่า เขาเป็นคนของประชาชน นักธุรกิจใหญ่เล็กหากเข้ามาพบ และขอถ่ายรูปด้วย เขาก็ถ่ายด้วย อีกทั้ง ปี 2557-2558 ตนยังไม่เป็นนายกฯ และขณะนั้นธุรกิจสแกมเมอร์ก็ยังไม่มี และทุกวันนี้การสืบขยายผล ตนได้บอกไปแล้วว่าถึงใครก็ต้องดำเนินการคนนั้น อย่าว่าแต่ถึงเบน สมิธ
คำชี้แจงของเอกนิติ
เอกนิติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ภาพนั้นเป็นงานเลี้ยงหลักสูตรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คาดว่าเกิดขึ้นหลังช่วงโควิด-19 เพราะที่คอยังมีผ้าอนามัยพาดอยู่เลย โดยเขาเป็นอาจารย์ในหลักสูตร ซึ่งมีผู้เข้าร่วมร้อยกว่าคน เขาไม่ได้รู้จักทุกคน ใครมาพูดคุยด้วย ก็จะพูดคุย และส่วนตัวไม่ทราบว่า เบน สมิธ เป็นนักเรียนร่วมรุ่นหรือเพียงแขกที่มีคนเชิญมากันแน่
นี่คือคำพูดของเอกนิติในเรื่องนี้ “ผมตรงไปตรงมา ตอนนี้ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ตอนนี้ไปงานเลี้ยง ไปงานสัมมนา ก็มีคนมาขอถ่ายรูป ก็ต้องระวังมากขึ้น ผมเองก็ไม่มีภาพนี้ คือในทุกหลักสูตรก็มีคนมาขอถ่ายรูป”
คำชี้แจงของ พล.อ.อภิรัชต์
พล.อ.อภิรัชต์ ที่ร่วมเฟรมกับเบน สมิธ ด้วยเช่นกัน และถึงขั้นกอดคอยืนอยู่กลางภาพ ชี้แจงกับเรื่องเล่าเช้านี้ สอดคล้องกับอนุทินว่า เป็นภาพปี 2557 ขณะเรียนหลักสูตร วปอ. และไปดูงานที่สิงคโปร์
แต่ก็มีอีกภาพที่ เบน สมิธ มาร่วมงานแต่งบุตรสาวของ พล.อ.อภิรัชต์ เขาอธิบายเพียงว่า คนมาร่วมงานเยอะและมาถ่ายรูป แต่เขาไม่ได้สนิทและคบหากับเบน สมิธ โดยรู้จักผิวเผินเท่านั้น
เบน สมิธ คอนเนคชันหัวแถวของอำนาจ
อันที่จริง ชื่อ เบน สมิธ เราคุ้นหูดีอยู่แล้ว เพราะปรากฏในข่าวเชิงสืบสวนสอบสวน ในสำนักข่าวหลายแห่ง โดยเฉพาะทอม ไรต์ (Tom Wright) นักข่าวมือรางวัล ที่ระบุว่าเบนจามิน เริ่มต้นเส้นทางด้วยการปั่นหุ้นในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย เขาหายตัวไปเมื่อถูกติดตามจากเจ้าหน้าที่ ก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้งในกัมพูชา
รายงานจาก สำนักข่าวอิศรา ชี้ว่าเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ถือสัญชาติกัมพูชา โดยเป็นที่ปรึกษาเลขาธิการวุฒิสภากัมพูชาตั้งแต่ปี 2557 และมีความพยายามเปลี่ยนสัญชาติเป็นไทย เมื่อปี 2567 ในช่วง อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทว่าไม่ได้รับอนุญาต
สิ่งที่ทำให้ชื่อ “เบนจามิน” ถูกจับตามองครั้งก่อนนั้น คือการปรากฏตัวพร้อมกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ทั้งในต่างประเทศและผ่านการใช้เรือหรูที่เกี่ยวพันกับกลุ่มทุนการเงินนอกระบบ
มีการตั้งข้อสังเกตว่า การพบปะเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียง “ความบังเอิญ” แต่สะท้อนการเจรจาทางธุรกิจหรือข้อตกลงบางอย่าง โดยเฉพาะในตลาดหุ้นไทย ซึ่งถูกตั้งคำถามว่าอาจกลายเป็นช่องทางฟอกเงินระดับภูมิภาค
มาวันนี้ เบน สมิธ ก็ปรากฎตัวในภาพถ่ายในอดีตกับอนุทิน พล.อ.อภิรัช และรองนายกฯ เอกนิติ ด้วย จนมีคนตั้งคำถามว่า เบน สมิธ ที่วันนี้มีสถานะเสมือนอาชญากร เข้าถึงคอนเนคชันระดับนี้ได้อย่างไร และผ่านใครกันแน่
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
