รีเซต

ลุ้นศบค. ขยับเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น. เปิดห้าง นั่งกินในร้าน 50% 'ร้านเสริมสวย' วันนี้รอเฮ

ลุ้นศบค. ขยับเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น. เปิดห้าง นั่งกินในร้าน 50% 'ร้านเสริมสวย' วันนี้รอเฮ
มติชน
27 สิงหาคม 2564 ( 07:25 )
68

ลุ้นศบค.ขยับเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น. สธ.ชงสูตร ‘โควิดฟรี’ เปิดห้าง-นั่งกินในร้าน 50% ถึง 2 ทุ่ม ‘ร้านเสริมสวย-นวดฝ่าเท้า’ วันนี้รอเฮ ด้านกต.ดีลวัคซีนรีเซลจากยุโรป

 

 

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. กล่าวว่า สธ.จะเสนอ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)ให้กิจการบางอย่างที่มีความสำคัญ มีความเสี่ยงน้อย สามารถใช้มาตรการกำกับเพื่อลดความเสี่ยงได้ อนุญาตให้ดำเนินกิจการได้ เช่น ร้านอาหาร กีฬากลางแจ้ง ห้างสรรพสินค้า และการเดินทาง คือ 1.Universal Prevention for COVID-19 หรือการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล คือ การป้องกันส่วนบุคคลสูงสุดตลอดเวลา ทั้งบุคลากรการแพทย์และประชาชนทั่วไป พบว่า เมื่อเราออกไปสู่ภายนอกกับคนไม่รู้จัก เราจะระมัดระวัง แต่กับคนรู้จักไม่ค่อยระวัง ที่ผ่านมาพบว่าการติดเชื้อมาจากคนใกล้ชิด จากที่ทำงาน เพื่อน ครอบครัว ทุกคนต้องมีจิตสำนึกว่าคนรอบตัวเรามีโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ หากมีความเสี่ยงก็ให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เช่น ชุดตรวจ ATK

 

 

2.มาตรการที่จะเสนอในสถานประกอบการ สธ.ยกระดับให้กิจการดำเนินการได้ เรียกว่า COVID Free Program ร่วมกับ Universal Prevention จะนำไปใช้กับสถานประกอบการ หรือสถานที่ต่างๆ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1.ส่วนสถานประกอบการ ต้องจัดระยะห่าง มีระบบระบายอากาศ ไม่ให้อากาศนิ่ง ที่เป็นห้องปรับอากาศ และ 2.ส่วนบุคคล ผู้ให้บริการ ต้องเป็นโควิดฟรี (COVID Free) คือ 1.ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 2.เคยติดเชื้อและพ้นระยะการแพร่เชื้อ คือ หลังติดเชื้อมาแล้วประมาณ 1 เดือน ไม่เกิน 3 เดือน ถือว่ามีภูมิคุ้มกันยังสูง หรือ 3.ถ้าไม่ได้ฉีดวัคซีนและไม่เคยติดเชื้อต้องมีผลการตรวจหาโควิด-19 ด้วยอาร์ที-พีซีอาร์ (RT-PCR) หรือ ATK เป็นลบ ผู้ที่ความเสี่ยงมากให้ตรวจทุก 3 วัน หากเสี่ยงน้อยทุก 7 วัน หากทำได้ ก็ให้บริการได้ ก็ประกาศได้ว่า ผู้ให้บริการทุกคนเป็นโควิดฟรี

 

 

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ช่วยจัดหาเพิ่มเติม เจรจากับประเทศทางยุโรป เป็นการรีเซล (Re-sale) คือ การขายต่อมา เนื่องจากประเทศต้นทางมีวัคซีนจำนวนมากเกินกว่าที่จะใช้ในช่วงนั้น ก็จะจำหน่ายให้ไทย ประกอบด้วย วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและวัคซีนไฟเซอร์ ทั้ง 2 ชนิด จะสามารถจำหน่ายให้เราได้ เดือนละ 2-3 ล้านโดส เป็นระยะเวลา 4 เดือน

 

 

รายงานข่าวจากว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.ศบค.) หรือ ศบค.ชุดเล็ก แจ้งว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม โดยจะผ่อนปรนให้ร้านอาหารนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ รวมทั้งลดระยะเวลาเคอร์ฟิว หรือห้ามออกนอกเคหสถานในยามวิกาล 1 ชั่วโมง ในส่วนของการผ่อนปรนร้านอาหารให้นั่งรับประทานในร้านได้นั้น จะมี 2 ส่วนคือ 1.ร้านอาหารที่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือเปิดแอร์ อนุญาตนั่งรับประทานในร้านได้คิดเป็น 50% ของจำนวนที่นั่งในร้าน 2.ร้านอาหารที่ไม่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือไม่เปิดแอร์ ให้นั่งได้ 75 % ของจำนวนที่นั่งในร้าน ต้องอยู่ภายใต้มาตรการสาธารณสุขเข้มงวด อาทิ พนักงานสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ห้ามตะโกนสั่งอาหาร ห้ามรวมกลุ่ม ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์

 

 

ส่วนการลดเวลาเคอร์ฟิว ยังห้ามประชาชนในพื้นที่สีแดงเข้มออกนอกเคหสถาน แต่ ศบค.ชุดเล็กหารือและลงมติให้ลดเวลาลงจากเดิม 1 ชั่วโมง เหลือเวลา 22.00-04.00 น. จากเดิม 21.00-04.00 น. นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่จะเสนอเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค. เป็นประธานการประชุมในวันที่ 27 สิงหาคม เพื่อลงมติว่าจะเห็นชอบตาม ศบค.ชุดเล็กหรือไม่ แล้วจะเริ่มบังคับใช้เมื่อไรในส่วนของร้านเสริมสวย ร้านนวด สถานเสริมความงามนั้น ผ่อนคลายให้เปิดบริการได้ ยกเว้นร้านนวดที่เปิดได้เฉพาะนวดเท้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง