สแกนหุ้นกลุ่มอสังหาฯ หลังราคาเหล็กโลกปรับตัวขึ้น ชู 3 หุ้นเด่น

ข่าววันนี้ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) ระบุว่า สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้ราคาเหล็กโลกปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนอุปทาน ซึ่งปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างและอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยเชื่อว่าจะเป็นผลกระทบที่จำกัด และมองว่ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้อยู่ในเส้นทางการฟื้นตัว ดังนั้นจึงยังให้น้ำหนัก OVERWEIGHT 

ฝ่ายวิจัย ระบุว่า การเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่จะสงบศึก จะทำให้ราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้นชะลอตัวลง นอกจากนี้ยังเชื่อว่ากำไรของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อยู่บนเส้นทางการฟื้นตัว และปัจจุบันหุ้นในกลุ่มนี้มีการซื้อขายอยู่ที่ Valuation ไม่แพง ที่พี/อี ของปีนี้ที่ 8.0 เท่า โดยมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลน่าสนใจที่ 6.1% 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบของฝ่ายวิจัยกับผู้บริหารของอสังหาริมทรัพย์ มองว่าการเพิ่มขึ้นของราคาเหล็ก และน้ำมันอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างอย่างไรก็ตาม ผู้บริหารมั่นใจว่าสามารถรับมือกับราคาเหล็กที่สูงขึ้นได้ หากวิกฤตรัสเซียและยูเครนไม่ยืดเยื้อ 

โดยหุ้น top pick ที่เลือกในกลุ่ม ได้แก่ หุ้น AP, LH และ SPALI 

หุ้น AP คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 13.00 บาทต่อหุ้น มองว่าการเติบโตของกำไรในปี 2565 ยังโตต่อเนื่อง ซึ่งจะได้แรงหนุนจากแผนการเปิดตัวโครงการที่รุนแรงที่สุดในบรรดาคู่แข่ง นอกจากนี้คาดว่า AP จะมีโอกาสได้รับส่วนแบ่งการตลาดจากกลุ่มกลาง-ล่าง และตลาดเฉพาะ โดยฝ่ายวิจัยชอบหุ้น AP ในด้านปัจจัยพื้นฐานที่มั่นคง ที่จะช่วยให้บริษัทรับมือกับความยากลำบากทางการเงินและการแข่งขันที่มากขึ้นได้ 

หุ้น LH คงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 10.50 บาทต่อหุ้น เชื่อว่าความต้องการในกลุ่มแนวราบจะยังคงแข็งแกร่งในปีนี้ เนื่องจาก LH เป็นผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มนี้ และมีความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือคู่แข่ง นอกจากนี้กระแสรายได้ประจำของ LH น่าจะอยู่บนเส้นทางการฟื้นตัว จากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและสถานการณ์โควิด-19 ที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น 

หุ้น SPALI คงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 26.50 บาทต่อหุ้น แม้ว่ารายได้จากธุรกิจที่อยู่อาศัยในปีนี้คาดว่าจะชะลอตัวหรือทรงตัว เนื่องจากในปีก่อนมีฐานที่สูง แต่เชื่อว่ากำไรจะยังคงแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับระดับก่อนเกิดโควิด-19 และยังชอบพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ SPALI และความสามารถในการทำกำไรที่จะทำให้บริษัทสามารถรับมือกับความยากลำบากทางการเงิน และการแข่งขันที่มากขึ้น