TMI บุ๊กขายไฟดันงบนิวไฮ ส่งโปรดักต์เข้าโมเดิร์นเทรด
#TMI #ทันหุ้น – TMI มีลุ้นผลงานทำสถิติสูงสุดรอบหลายปี หลังบุ๊กเงินโรงไฟฟ้าใหม่เข้าพอร์ต บอสใหญ่ “ธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร” เล็งส่งอุปกรณ์ส่องสว่างเข้าโมเดิร์นเทรดไตรมาสแรก หวังโกยยอดขาย 10 ล้านบาท มั่นใจผลงานปีนี้ติดเครื่องวิ่งต่อ
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยว่า คาดในไตรมาส 1/2566 จะส่งสินค้า อุปกรณ์ส่องสว่างจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด หลังจากปลายปี 2565 สินค้าบางส่วนถูกเลื่อนส่งในช่วงที่ผ่านมา เบื้องต้นคาดยอดขายสินค้าที่จะส่งในไตรมาส 1/2566 นี้ จะอยู่ราว 10 ล้านบาท
** ส่งหลอดไฟขาย
“ช่องทางโมเดิร์นเทรดที่เราขาย ค่อนข้างขายดี แต่เราถูกเลื่อนส่งของ ตัวเลขที่หายไปก็ค่อนข้างเยอะ แต่คาดว่าใน ไตรมาส 1/2566 นี้เราน่าจะถูกเรียกสินค้าเข้าไปขายได้ตามเดิม” นายธีระชัย กล่าว
ทั้งนี้บริษัทมั่นใจผลประกอบการปี 2565 จะเติบโตตามแผน และเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดในรอบหลายปี เพราะผลประกอบการฟื้นตัวชัด อีกทั้งในไตรมาส 4/2565 บริษัทรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าโรงไฟฟ้าชีวภาพ แห่งที่ 3 จังหวัดสุพรรณบุรี ขนาดกำลังผลิต 3 เมกะวัตต์เข้ามา อีกทั้งโรงไฟฟ้าอื่นๆ ยังสามารถเดินเครื่องได้เป็นปกติ
อนึ่งบริษัทมีโรงไฟฟ้าทั้งสิ้นจำนวน 3 แห่ง 5.4 เมกะวัตต์ ประกอบไปด้วย โรงไฟฟ้าชีวภาพ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร กำลังผลิต 1 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าชีวภาพ จังหวัดชุมพร กำลังผลิต 1.4 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าชีวภาพ จังหวัดสุพรรณบุรี กำลังผลิต 3 เมกะวัตต์
ขณะที่ปี 2566 บริษัทมีแผนจะลงทุนขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม เบื้องต้นคาดจะขยายกำลังผลิตอีก 3-5 เมกะวัตต์ ส่วนเงินลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 200-300 ล้านบาท
** รุกพลังงานเต็มที่
บริษัทพร้อมแล้วในการก้าวสู่ธุรกิจพลังงานอย่างเต็มตัว เตรียมเดินหน้าขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าด้วยการเปิดรับซื้อโรงไฟฟ้าชีวภาพเพิ่มเติม, การจัดจำหน่ายไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ, การส่งออกคาร์บอนเครดิตคืนสู่ยุโรป และการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างๆ เพิ่มความคล่องตัว ความรวดเร็ว และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ส่วนภาพรวมธุรกิจและผลประกอบการปี 2566 บริษัทคาดจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2565 จากการรับรู้รายได้การขายไฟฟ้าโรงไฟฟ้าชีวภาพโรงที่ 3 เต็มปี คาดจะหนุนผลประกอบการให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตามบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการนำสินค้าใหม่เกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น รางสายไฟ ปลั๊กไฟ เป็นต้น มาจำหน่าย คาดจะเริ่มขายในไตรมาส 1/2566 เป็นต้นไป ทั้งนี้การขายสินค้าในประเทศมีอัตราการเติบโตสูง หลังจากท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว และทำให้ความต้องการใช้หลอดไฟมีปริมาณมากขึ้น ส่วนการส่งออก ปัจจุบันมีสัดส่วนน้อย หรือไม่ถึง 5% โดยส่วนใหญ่ยังจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก 95% ขณะที่บริษัทคาดธุรกิจผลิต และจำหน่ายอุปกรณ์ส่องสว่างปี 2566 จะเติบโตประมาณ 20%