'บิ๊กป้อม' ย้ำผู้ว่าฯทุกจังหวัด แก้ปัญหาเร่งด่วนทุกมิติ ช่วยประชาชนอยู่ดี กินดี
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ห้องประชุมศรีสมาน 1 อาคารอเนกประสงค์ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สำหรับเขตตรวจราชการที่ 1, 7, 13 และ 16 โดยมี พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ หัวหน้าคณะทำงานส่วนอำนวยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย(มท.) และเจ้าหน้าที่หน่ายงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ที่ประชุมมีเรื่องเพื่อทราบ ผลการอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ซึ่งสำนักงบประมาณได้อนุมัติจัดสรรงบประมาณแล้ว และที่ประชุมรับทราบนโยบาย มาตรการและแนวทางการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ได้แก่ 1) มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) 2) ปัญหาสำคัญในแต่ละพื้นที่ตามที่รองนายกรัฐมนตรีเห็นสมควร เช่น การแก้ไขปัญหาความยากจน (TPMAP) การบุกรุกที่สาธารณะการเตรียมการรับภัยแล้งหรือการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยราคาสินค้เกษตรตกต่ำการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายการแก้ไขหาแรงงาน การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะ ปัญหาหมอกควันชายแดนภาคใต้ เป็นต้น
พล.อ.ประวิตร กล่าวมอบนโยบายว่า ขอให้จังหวัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ ให้จังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการ และประสานงานเพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ให้กับประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยต่างๆ และจากปัญหาการแพร่ระบาด ของโควิด19 สร้างความรับรู้ให้ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมทั้งรับฟังปัญหาข้อขัดข้องและข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่ เพื่อกำหนดแนวทาง การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ตรงตามความต้องการต่อไป แนวทางการสนับสนุนงบประมาณในปีนี้ ขอให้เน้นย้ำการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนให้กับประชาชนโดยน้อมนำแนวทาง ตามพระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาดำเนินการให้เกิดเป็นรูปธรรม ให้หัวหน้าคณะทำงานกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค รวมทั้งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคตรวจติดตามผลการดำเนินโครงการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ พร้อมทั้งให้ทุกจังหวัดรายงานผลความก้าวหน้าและการเบิกจ่ายงบประมาณ ที่ได้รับการสนับสนุน อย่างต่อเนื่อง ใกล้ชิด และจริงจัง ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคในฐานะฝ่ายเลขานุการฯ ศึกษารูปแบบการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการสำหรับผู้บริหารเพื่อออกแบบและพัฒนาระบบฐานข้อมูลดิจิทัลในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ ให้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว สามารถติดตามข้อสั่งการและการรายงานผลข้อมูลได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า การมอบนโยบายในครั้งนี้ จะทำให้เข้าใจถึงความห่วงใยของรัฐบาลที่มีต่อประชาชน และทำให้การกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนอยู่ดี กินดีมีความเป็นอยู่ ที่ดีขึ้นต่อไป