รีเซต

“อะมีบากินสมอง” ภัยเงียบจากน้ำธรรมชาติ ย์แพทย์ มช. เตือนประชาชนอย่าชะล่าใจ

“อะมีบากินสมอง” ภัยเงียบจากน้ำธรรมชาติ ย์แพทย์ มช. เตือนประชาชนอย่าชะล่าใจ
TNN ช่อง16
15 กรกฎาคม 2568 ( 17:58 )
19

แพทย์และทีมคณาจารย์ ประจำภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มช. ออกเตือนประชาชน หลีกเลี่ยงล้างจมูกด้วยน้ำประปา และควรระวังขณะเล่นน้ำในแหล่งธรรมชาติ แม้ความเสี่ยงต่ำ แต่อันตรายร้ายแรงถึงชีวิต 

แม้จะพบได้น้อยมากในประเทศไทย แต่โรค “อะมีบากินสมอง” หรือ Primary Amoebic Meningoencephalitis (PAM) ถือเป็นภัยสุขภาพที่รุนแรงและมักจบลงด้วยการเสียชีวิตภายในไม่กี่วัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนให้ประชาชนตระหนักถึงการใช้และสัมผัสน้ำจากแหล่งธรรมชาติ หรือแม้แต่น้ำประปาในบางกรณี พร้อมแนะนำแนวทางป้องกันที่ทุกคนสามารถทำได้ 

อะมีบากินสมองคืออะไร? 

อะมีบากินสมอง คือเชื้อปรสิตเซลล์เดียวในกลุ่มอะมีบา ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Naegleria fowleri พบได้ทั่วโลก ทั้งในดิน แหล่งน้ำจืดธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ ทะเลสาบ น้ำพุร้อน รวมถึงแหล่งน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สระว่ายน้ำหรือถังเก็บน้ำที่ไม่ได้มาตรฐาน 

ประเทศไทยพบเชื้อชนิดนี้ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในแหล่งน้ำจืด ไม่พบในน้ำทะเล และปัจจุบันยังไม่มียารักษาที่จำเพาะสำหรับเชื้อชนิดนี้ 

ภัยเงียบที่คร่าชีวิต

แม้จะพบได้น้อยมาก แต่อะมีบากินสมองกลับอันตรายถึงชีวิต ข้อมูลผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2525 – 2564 มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมเพียง 17 ราย แต่เสียชีวิตถึง 14 ราย และส่วนใหญ่เสียชีวิตภายใน 1–2 สัปดาห์หลังแสดงอาการ 

ด้วยเหตุนี้ โรคนี้จึงถือเป็น “ภัยเงียบ” ที่ประชาชนมักไม่ตระหนักถึง โดยเฉพาะเมื่อยังไม่มีแนวทางการรักษาที่ชัดเจน 

ใครเสี่ยง? ติดได้อย่างไร? 

ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้ที่เล่นน้ำในคลอง บึง น้ำตก หรือแม้แต่ในสระว่ายน้ำหรือสวนน้ำที่ไม่ได้รับการดูแลที่ดี รวมถึงผู้ที่ใช้น้ำประปาล้างจมูกโดยตรง 

การติดเชื้อเกิดจากการที่น้ำที่มีเชื้อ Naegleria fowleri เข้าทางโพรงจมูก เชื้อจะไต่ขึ้นผ่านเส้นประสาทรับกลิ่นไปยังสมอง ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบรุนแรง 

อาการหลังติดเชื้อ ได้แก่ ปวดหัว มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ก่อนพัฒนาเป็นคอแข็ง และมีภาวะทางระบบประสาทอย่างรวดเร็ว หากไม่วินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว มักเสียชีวิตในเวลาอันสั้น การให้ประวัติการว่ายน้ำ เล่นกีฬาทางน้ำหรือกิจกรรมในแหล่งน้ำธรรมชาติ การล้างโพรงจมูกด้วยน้ำประปา จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้เร็วขึ้น 

เคยเกิดในไทยแล้ว 

กรณีล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2565 เมื่อชาวเกาหลีที่พำนักในประเทศไทย 4 เดือน กลับไปประเทศแล้วเสียชีวิตด้วยภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบา แพทย์วินิจฉัยภายหลังว่าเป็นโรคอะมีบากินสมอง 

น้ำประปาปลอดภัยหรือไม่? 

น้ำประปาที่ได้มาตรฐานถือว่าปลอดภัยจากเชื้อชนิดนี้ อย่างไรก็ตาม หากมีการนำน้ำไปพักไว้ในถังเก็บน้ำก่อนใช้งาน อาจมีการปนเปื้อนเชื้อชนิดนี้จากการแตกรั่วซึมของระบบท่อส่ง และปริมาณคลอรีนในถังพักน้ำอาจลดลงจนฆ่าเชื้อไม่ได้ 

ที่สำคัญคือ “ไม่ควรใช้น้ำประปาในการล้างโพรงจมูกโดยตรง” เพราะเป็นทางเข้าสำคัญของเชื้อ หากจำเป็น ควรต้มน้ำก่อนใช้งาน หรือใช้  “น้ำเกลือปราศจากเชื้อ” ในการล้างโพรงจมูก   

แนวทางป้องกันสำหรับประชาชน 

  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำประปาล้างโพรงจมูก โดยเฉพาะน้ำจากถังเก็บ 

  • ใช้น้ำเกลือปราศจากเชื้อในการล้างจมูก และควรเป็นขวดขนาดเล็ก ใช้ครั้งเดียว 

  • หากต้องว่ายน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือสระน้ำที่ไม่มั่นใจ ควรสวมที่หนีบจมูกเสมอ 

  • หากสำลักน้ำเข้าจมูก ควรสั่งน้ำมูกออกทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง