ส่องนวัตกรรม “AI Bio-Tech” รับมือภัยเงียบจากน้ำประปา หลังพบกรณี "อะมีบากินสมอง" คร่าชีวิตหญิงชาวสหรัฐฯ

รายงานจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) เปิดเผยว่าพบหญิงวัย 71 ปีจากรัฐเท็กซัส (Texus) ประเทศสหรัฐอเมริกา ติดเชื้อ แนกเลอเรีย ฟาวเลอไร (Naegleria fowleri) จากการใช้น้ำประปาที่ปนเปื้อนในอุปกรณ์ล้างจมูก ซึ่งนำไปสู่ภาวะสมองอักเสบจากอะมีบา (Primary Amebic Meningoencephalitis - PAM) หรือเรียกได้ว่าเป็นภาวะ "อะมีบากินสมอง"
โดยหญิงรายนี้เริ่มมีอาการทางระบบประสาทอย่างรุนแรง เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ และมีภาวะสับสน เพียง 4 วันหลังจากล้างจมูก และแม้จะได้รับการรักษาแต่เธอก็เสียชีวิตใน 8 วันหลังแสดงอาการ โดยการตรวจสอบยืนยันพบอะมีบาในน้ำไขสันหลังของเธอ ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้แต่กิจวัตรประจำวันง่าย ๆ ก็อาจกลายเป็นช่องทางให้เชื้อโรคที่อันตรายเล็ดรอดเข้ามาได้ หากขาดความเข้าใจและการป้องกันที่เหมาะสม
Naegleria fowleri คือ
Naegleria fowleri คือ อะมีบาเซลล์เดียว ที่อาศัยอยู่ในดินและแหล่งน้ำจืดอุ่นทั่วโลก เช่น ทะเลสาบ แม่น้ำ และน้ำพุร้อน และในบางกรณีที่พบได้ยากมาก คือ เชื้อนี้ยังถูกพบในสระว่ายน้ำที่ดูแลไม่ดี ลานน้ำพุ หรือแม้แต่น้ำประปาที่ปนเปื้อนได้ด้วย
การติดเชื้อเกิดขึ้นเมื่อน้ำที่มีอะมีบาเข้าสู่จมูกและเดินทางไปยังสมอง ทำให้เกิดภาวะสมองอักเสบจากอะมีบา (PAM) ซึ่งเป็นโรคที่ลุกลามอย่างรวดเร็วและเป็นอันตรายถึงชีวิต จากข้อมูลในสหรัฐอเมริกา ระหว่างปี 1962 ถึง 2023 มีรายงานผู้ป่วย PAM ถึง 164 ราย แต่มีเพียง 4 รายเท่านั้นที่รอดชีวิต ซึ่งถือว่ามีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 97% สะท้อนให้เห็นถึงความร้ายแรงของโรคนี้
อาการเริ่มต้นของ PAM อาจคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ปวดศีรษะ มีไข้ คลื่นไส้ และอาเจียน แต่อาการจะแย่ลงอย่างรวดเร็ว โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เสียชีวิตภายใน 1 ถึง 18 วันหลังจากเริ่มมีอาการ และมักนำไปสู่ภาวะโคม่าและเสียชีวิตภายใน 5 วันเมื่ออาการลุกลาม อาจพบอาการคอแข็ง สับสน สูญเสียการทรงตัว และเห็นภาพหลอนได้
ความเสี่ยงจากแหล่งน้ำและการปนเปื้อน
โดยปกติแล้ว เชื้อ Naegleria fowleri มักพบในแหล่งน้ำจืดอุ่นธรรมชาติ และการติดเชื้อมักเกิดขึ้นเมื่อผู้คนทำกิจกรรมทางน้ำที่อาจสูดน้ำที่ปนเปื้อนเชื้ออะมีบาเข้าจมูก อย่างไรก็ตาม กรณีของหญิงที่เสียชีวิตในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่า การล้างไซนัส หรือ การล้างสิ่งสกปรกภายในจมูกจากโรคไวรัสด้วยน้ำที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญเช่นกัน
จากการสอบสวนพบว่า ถังเก็บน้ำดื่มของรถบ้าน ของหญิงคนนี้ อาจมีน้ำที่ปนเปื้อนอยู่ก่อนที่เธอจะซื้อรถบ้านถึง 3 เดือน นอกจากนี้ ระบบน้ำประปาของเทศบาลที่เชื่อมต่อกับระบบน้ำดื่มของรถบ้าน ก็อาจเป็นสาเหตุของการปนเปื้อนได้เช่นกัน สิ่งนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบคุณภาพน้ำที่ใช้ในชีวิตประจำวัน แม้กระทั่งน้ำประปาที่ดูเหมือนปลอดภัย
เทคโนโลยีกับการระบุเชื้อโรคที่ซ่อนอยู่
จากเหตุการณ์นี้ ปัจจุบันนี้เรามีเทคโนโลยี AI และ BioTech ที่ช่วยรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว เช่น Genomic Sequencing และ AI
การหาลำดับพันธุกรรมของจีโนม (Genomic Sequencing) กระบวนการถอดรหัสลำดับเบสของ DNA ทั้งหมดในจีโนมหรือยีนของสิ่งมีชีวิตหนึ่ง ๆ ซึ่งจีโนม (Genome) คือ ข้อมูลพันธุกรรมทั้งหมด ของสิ่งมีชีวิต เช่น ของมนุษย์จะมี DNA ประมาณ 3,000 ล้านเบส ดังนั้นการทำ Genomic Sequencing คือการอ่านลำดับเบสที่อยู่ใน DNA เพื่อดูว่าเรียงกันอย่างไรบ้าง โดยข้อมูลที่ได้สามารถป้อนเข้าสู่ระบบปัญญาประดิษฐ์ AI เพื่อวิเคราะห์รูปแบบอาการและประวัติการสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว ช่วยแพทย์ในการตัดสินใจรักษาได้ทันท่วงที
ข้อควรปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเมื่อทำการล้างโพรงจมูก
ใช้น้ำกลั่น หรือ ใช้น้ำที่ผ่านการฆ่าเชื้อ (Sterilized Water) ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา สำหรับการล้างจมูก หรือหากใช้น้ำประปาสามารถใช้น้ำประปาที่ต้มแล้วทิ้งไว้ให้เย็น ได้เพราะการต้มน้ำจะช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย รวมถึงอะมีบา ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำประปาโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นน้ำจากก๊อกในบ้านหรือรถบ้าน หากไม่ได้ผ่านกระบวนการข้างต้น
กรณีการเสียชีวิตจากอะมีบากินสมองในเท็กซัสเป็นเครื่องย้ำเตือนว่า แม้โรคจะหายาก แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นร้ายแรง การใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดและรอบด้าน ตั้งแต่การเฝ้าระวังระดับโมเลกุลไปจนถึงระบบเตือนภัยอัจฉริยะ จะเป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องสุขภาพของประชาชน และเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามทางชีวภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ด้วยความที่โรคนี้หายากและอาการลุกลามเร็ว การวินิจฉัยจึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย และบางครั้งอาจเกิดขึ้นหลังจากผู้ป่วยเสียชีวิตไปแล้ว และในสหรัฐอเมริกา มีห้องปฏิบัติการเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น แม้ว่าปัจจุบันจะมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 97% แต่การวิจัยเพื่อหายาที่มีประสิทธิภาพก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยมีหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ว่ายาบางชนิดอาจมีผลในการรักษา อย่างไรก็ตามการตระหนักและป้องกันตัวเองก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
