'สาธิต' เชื่อ 'โอไมครอน' เข้าไทยแล้ว ชี้เชื้อไม่ได้ลงปอด อาจเหมือนไข้หวัด
ข่าววันนี้ 17 ธ.ค.64 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจกระบวนการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 ว่า จากการลงพื้นที่ตรวจกระบวนการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศ ทั้งระบบ Test&Go แซนด์บ็อกซ์ และกักตัว พบว่ามีการจัดระบบเรียบร้อยดี
แม้ช่วงแรกที่เปิดประเทศอาจมีปัญหาบ้าง แต่เมื่อดำเนินการมาสักระยะก็เป็นไปด้วยความราบรื่น ขั้นตอนการตรวจสอบ Thailand Pass ใช้เวลาไม่นาน รถรับส่งจากสนามบินไปยังโรงแรมเพื่อตรวจ RT-PCR ได้มาตรฐาน เพียงแต่อนาคตหากผู้โดยสารเข้ามามากขึ้น จึงต้องหารือเพิ่มบุคลากรในการคัดกรองให้คล่องตัวมากขึ้น
"ค่อนข้างมั่นใจในระบบคัดกรอง เพราะผู้เดินทางต้องได้รับวัคซีน 2 เข็ม มีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง มีประกันสุขภาพ เมื่อมาถึงไทยต้องตรวจ RT-PCR อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไร 100% อาจจะมีหลุดได้ แต่เรามีแอพพลิเคชันหมอชนะในการติดตาม หากพบการติดเชื้อภายหลัง
ทั้งนี้ จะรายงาน ครม.ว่าระบบมีความพร้อมอย่างมากที่จะเดินหน้าต่อ เนื่องจากผู้เดินทางเข้าประเทศอย่าง Test&Go มีอัตราการติดเชื้อต่ำ ขณะที่มาตรการเราเข้มข้น แม้หลายประเทศจะมีสายพันธุ์โอมิครอน แต่ไม่จำเป็นต้องปิดประเทศหรือเพิ่มมาตรการ เพราะบางประเทศอย่างญี่ปุ่น สหรัฐฯ ที่ปิดน่านฟ้าก็ยังพบโอมิครอนอยู่ดี" นายสาธิตกล่าว
นายสาธิต กล่าวว่า สายพันธุ์โอไมครอนนั้น เชื่อว่าอย่างไรประเทศไทยก็ต้องเจอ เชื่อส่วนตัวลึกๆ ว่าเข้ามาประเทศไทยแล้ว เราต้องเจออยู่แล้ว แต่มาตรการที่ดำเนินการอยู่นี้ยังช่วยเฝ้าระวัง ป้องกัน และติดตามผู้ติดเชื้อได้ ทั้งนี้ ยังต้องศึกษาว่าโอไมครอนจะทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้นหรือไม่
เบื้องต้นคือแพร่ระบาดได้เร็ว แต่เป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน อาจจะเหมือนไข้หวัด เนื่องจากไม่ได้ลงปอด อย่างไรก็ตาม เราเตรียมระบบการดูแลรักษาและยาไว้แล้ว หากไม่มีอาการก็ดูแลรักษาที่บ้าน หากมีอาการเล็กน้อยก็เข้ารักษาโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้อัตราครองเตียงยังมีว่าง ทั้งระดับประเทศและ กทม.
ขณะที่เครือข่ายสถานพยาบาลทั้งโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลทหารตำรวจก็มีความพร้อม เรามีประสบการณ์เพียงพอที่จะยังเดินหน้ารับนักท่องเที่ยว แต่หากพบว่าโอมิครอนทำมีอาการรุนแรงมากขึ้นเราก็พร้อมที่จะปรับมาตรการรองรับเพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้
"สิ่งที่ช่วยป้องกันโอไมครอนคือ การมารับวัคซีนควบคู่กับการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ซึ่งส่วนใหญ่ 99% สวมหน้ากาก ต้องช่วยกันเว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆ หากเฝ้าระวังควบคุมโรคอย่างดีคู่ขนานกับการเปิดเศรษฐกิจ ทุกคนร่วมมือกันเต็มที่ มีความสุขด้วย เคร่งครัดมาตรการและทำตามวินัยไปด้วย เราจะผ่านไปได้และปีใหม่นี้ก็จะไม่สะดุด
ส่วนการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดหลังปีใหม่ ทาง ศบค.ก็ให้ข้าราชการทำงานที่บ้านให้มากที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด หลังมีการเดินทางช่วงปีใหม่" นายสาธิตกล่าว