SCGPชูดีลควบรวม รายได้ชน1.6แสนล.

#SCGP #ทันหุ้น – SCGP รับอานิสงส์จีนเปิดประเทศ ดันยอดส่งออกพุ่ง เดินเกมดีล M&P เต็มพิกัด อัพฐานต่อยอดธุรกิจเพิ่ม คาดสรุปได้ 3 ดีลในปีนี้ แถมทุ่มงบ 1.8 หมื่นล้านบาท เสริมแกร่งธุรกิจรอบด้าน ผู้บริหาร “ดนัยเดช เกตุสุวรรณ” ปักธงปี 2566 รายได้วิ่งชน 1.6 แสนล้านบาท
นายดนัยเดช เกตุสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจาเพื่อควบรวมกิจการกับพันธมิตร (M&P) ในกิจการต่างๆ หลายดีล หวังเข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจและเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเดิมของบริษัท เช่น ธุรกิจบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษลูกฟูก, วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ให้กับธุรกิจให้มากขึ้น คาดได้เห็นความชัดเจนอย่างน้อย 3 ดีลภายในปี2566
"ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางSCGP ได้มีการร่วมลงทุนในดีล M&P มาโดยตลอด และผลการดำเนินงานของกลุ่ม M&P ส่วนใหญ่ก็เป็นไปตามที่บริษัทได้คาดไว้ แม้บางส่วนอาจได้รับกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงค่าขนส่งทางเรือที่ปรับตัวเพิ่ม แต่ปัจจุบันทุกอย่างฟื้นตัว และกลายเป็นอีกแรงสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอีกทางหนึ่ง" นายดนัยเดช กล่าว
*ปีนี้รายได้ทะยานต่อ
ขณะที่งบลงทุนปี 2566 ทางSCGP ได้วางไว้ประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 10% เมื่อเทียบกับปี 2565 เพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น แบ่งเป็น การใช้รองรับการ M&P อยู่ที่ 9 พันล้านบาท, การปรับปรุงและเพิ่มกำลังผลิตโรงงานทั้งในและต่างประเทศราว 3 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือนั้นใช้พัฒนาเกี่ยวกับเรื่องนวัตกรรมและการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความยั่งยืน (ESG) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
สำหรับผลประกอบการปี 2566 ทางSCGP ยังประมาณการรายได้ไว้ประมาณ 1.6 แสนล้านบาท ผลจากการขยายกำลังการผลิตของกลุ่มธุรกิจที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ปริมาณการขายขยายตัว ขณะเดียวกันยังได้แรงสนับสนุนการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจในประเทศและการส่งออกไปยังประเทศจีนที่กลับมาเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนได้รับปัจจัยบวกจากธุรกิจ M&P ที่ได้ลงทุนในช่วงที่ผ่านมาเข้ามาเสริม นอกเหนือ จากส่วนอื่นๆ
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เข้าร่วม Science Based Targets initiative (SBTi) ความร่วมมือระดับนานาชาติในการตั้งเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกบนพื้นฐานที่มีการวัดผลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้รับการยอมรับระดับสากล เพื่อยกระดับสู่ Net Zero ในปี2593
*อนาคตไกลเป้า 53 บ.
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ "ซื้อ" หุ้น SCGP ให้ราคาเป้าหมาย 53.00 บาท เนื่องจากมองว่าในครึ่งหลังปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนขึ้น โดยมีคำสั่งซื้อจากจีน และราคาขายกระดาษในไตรมาส 1/2566 มีสัญญาณดีขึ้นเล็กน้อยหลังจีนเปิดประเทศ แต่ประเมินว่าการฟื้นตัวจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงในครึ่งปีหลังคาดจะมีดีลM&P จะได้ข้อสรุปราว 1 ดีล
อย่างไรก็ดี จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ประมาณการกำไรปกติปี 2566 ไว้ราว 7.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น29%YoY เพราะแรงสนับสนุนจากแนวโน้มผลดำเนินงานในครึ่งแรกปีนี้ที่ยังฟื้นตัวช้า จากผลบวกจีนเปิดประเทศที่ยังต้องใช้เวลาและภาคการบริโภคโดยรวมที่ยังโดนกดดันจากภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าว ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่แข็งแกร่ง ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นโอกาสในการลงทุนหุ้น SCGP