ผลพวงโควิด-19 พลิกอันดับเมืองค่าครองชีพแพง
วันนี้( 25 พ.ย.63) การสำรวจประจำปีของ อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต ซึ่งเป็นหน่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจของนิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ทำการเก็บข้อมูลของเมืองใหญ่ทั่วโลก 133 เมือง จากการเปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการในชีวิตประจำวันจำนวน 138 รายการ ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาพบว่า เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุด 3 อันดับแรกของโลกประจำปี 2020 คือ ฮ่องกง ซูริก และปารีส ขณะที่สิงคโปร์ และโอซากา ที่เคยครองอันดับหนึ่งเท่ากับฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว ลดระดับลงมาอยู่ที่อันดับ 4 และอันดับ 5 โดยสาเหตุที่ค่าครองชีพในสิงคโปร์ต่ำลง เนื่องจากชาวต่างชาติย้ายออกไป หลังจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในขณะที่ค่าครองชีพของโอซากาถูกลงเพราะอัตราการบริโภคซบเซา จนรัฐบาลญี่ปุ่นต้องอุดหนุนค่าใช้จ่ายและระบบขนส่งสาธารณะ
ส่วนเมืองหลายแห่งของจีนมีอันดับสูงขึ้น เพราะความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น ขณะที่กรุงเทพมหานคร อันดับลดลง 20 อันดับ ไปอยู่ที่อันดับ 46 ของโลก
นอกจากนี้ เมืองหลายแห่งในทวีปอเมริกา แอฟริกา และยุโรปตะวันออก ค่าครองชีพปรับลดต่ำลงตั้งแต่ปีที่แล้ว ขณะที่เมืองในยุโรปตะวันตกมีค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยปีนี้เมืองในยุโรปตะวันตกติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกมากถึง 4 เมืองโดยซูริก และปารีส มีอันดับค่าครองชีพสูงสุดเท่ากัน เป็นผลจากเงินสกุลยูโรและฟรังก์สวิสแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
ส่วนเจนีวา และโคเปนเฮเกน อยู่ที่อันดับ 7 และ 9 ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสกุลเงินยุโรปแข็งค่าเมื่อเปรียบเทียบกับค่าครองชีพในนครนิวยอร์ก โดยนิวยอร์กของสหรัฐฯ อันดับร่วงลงมา 1 อันดับ มาอยู่อันดับ 7 ร่วมกับนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนลอสแอนเจลิส ตกมาอยู่อันดับ 9 เท่ากับโคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก ส่วนเมืองที่มีค่าครองชีพเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือกรุงเตหะรานของอิหร่าน ซึ่งไต่ลำดับเพิ่มขึ้นถึง 27 อันดับ จากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อปริมาณสินค้าในประเทศ
ผลสำรวจครั้งนี้ ยังชี้ว่าภาพรวมของราคาของสินค้าและบริการต่างๆไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ราคาของสินค้าจำเป็นหลายอย่างปรับตัวสูงขึ้น เหตุผลหนึ่งเกิดจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้การขนส่งสินค้าและบริการมีอุปสรรค จนส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าบางหมวดที่ปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนอันดับเมืองที่ค่าครองชีพต่ำที่สุด 5 อันดับในปีนี้ คือ กรุงอัลมาตี คาซัคสถาน , กรุงลูซากา แซมเบีย , กรุงคารากัส เวเนซุเอลา , กรุงทาชเคนต์ อุซเบกิสถาน และ กรุงดามัสกัส ซีเรีย
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE