อำเภอ สั่งระงับ 'บ่อขยะห้วยสัก' หลังชาวบ้านร้อง ชงผู้ว่าฯเชียงรายพิจารณาอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 28 กันยายน นายสมกิจ เกศนาคินทร์ นายอำเภอเมืองเชียงราย จ.เชียงรายได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีเทศบาล ต.ห้วยสัก มีโครงการจะก่อสร้างโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างหมู่บ้านดงป่าเหมี้ยง หมู่ 10 และบ้านร่องเผียว หมู่ 24 ต.ห้วยสัก แต่ได้มีชาวบ้านหลายหมู่บ้านพากันคัดค้านไม่เห็นด้วยเพราะเกรงจะส่งผลกระทบ โดยครั้งนี้ได้มีนายนิพนธ์ สารถ้อย นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.ห้วยสัก และผู้บริหารเทศบาลรวมทั้งนายธนกิจ ฟักแก้ว อายุ 53 ปี แกนนำชาวบ้านที่คัดค้านโครงการเข้าร่วมโดยมีชาวบ้านประมาณ 60 คน พากันถือป้ายคัดค้านอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารที่ว่าการ อ.เมืองเชียงราย ด้วย ทั้งนี้การเรียกทั้ง 2 ฝ่ายเข้าหารือเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมาได้มีชาวบ้านร่วมลงชื่อคัดค้าน ณ ศาลาประชาคมหมู่บ้านดงป่าเหมี้ยงเมื่อวันที่ 26 ก.ย.โดยมีการชุมนุมถือป้ายจนอาจทำให้เรื่องบานปลายได้

ซึ่งในการประชุมแกนนำชาวบ้านได้แจ้งต่อทาง อ.เมืองเชียงราย ว่าทางเทศบาล ต.ห้วยสัก ได้มีการสำรวจความคิดเห็นและทำประชามติเบื้องต้นเพื่อผลักดันโครงการดังกล่าวโดยมีเป้าหมายจะสร้างใกล้บ่อขยะแห่งเดิม ซึ่งปัจจุบันเทศบาลนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กันได้เข้าไปจัดทำเป็นบ่อขยะแบบฝังกลบอยู่ อย่างไรก็ตามโครงการสร้างโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะดังกล่าวนั้นขาวบ้านคาดว่าจะเกี่ยวข้องกัน และจะส่งผลกระทบต่อ 8 หมู่บ้านใกล้เคียงคือบ้านร่องเผียว หมู่ 8 บ้านร่องเบ้อ หมู่ 9 บ้านดงป่าเหมี้ยง หมู่ 10 บ้านสันต้นเปา หมู่ 14 บ้านร่องเผียว หมู่ 18 บ้านดอนชุม หมู่ 21 บ้านร่องเผียว หมู่ 24 และบ้านสนต้นเปา หมู่ 28 โดยกังวว่าจะเกิดมลพิษจากฝุ่นควันที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น มะเร็ง ทางเดินหายใจ กลิ่นเหม็น ฯลฯ แหล่งน้ำคือหนองสกึ๋น หนองหลวงและแม่น้ำกกได้รับผลกระทบ เกิดการขนขยะโดยรถบรรทุกเข้าและออกจนทำให้ถนนชำรุดเสยหายและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ฯลฯ

เทศบาล ต.ห้วยสัก แจ้งว่ามีความจำเป็นในการดำเนินโครงการเพราะปัจจุบันมีปริมาณขยะเกิดขึ้นในปริมาณมากจึงควรหาวิธีการกำจัดอย่างถูกวิธี ซึ่งกรณีของโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะดังกล่าวถือเป็นทางเลือกหนึ่ง อย่างไรก็ตามทางกลุ่มชาวบ้านยืนยันว่าต้องการให้มีการยกเลิกโครงการเพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบโดยเฉพาะพื้นที่เป็นสถานที่ฝังกลบขยะของเทศบาลนครเชียงรายมาได้นานกว่า 27 ปีแล้ว โดยมีการเข้าไปใช้พื้นที่โดยทำข้อตกลงระหว่างเทศบาล ต.ห้วยสัก และเทศบาลนครเชียงราย ครั้งละ 15 ปีและครั้งล่าสุดเหลือระยะเวลาอีก 8 ปีโดยมีการใช้วิธีการคัดแยกขยะเพื่อนำบางส่วนกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลควบคู่กับการฝังกลบแบบเดิมกระทั่งปัจจุบันเกิดสภาพขยะล้น ชาวบ้านโดยรอบได้รับผลกระทบมาโดยตลอดแต่ปรากฎว่าล่าสุดนอกจากจะไม่ปรับปรุงเรื่องเดิมยังจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่นี้ขึ้นอีกจึงเกรงว่าจะได้รับผลกระทบเหมือนเดิมอีก

ด้านนายสมกิจ กล่าวว่าได้แจ้งให้ทางเทศบาล ต.ห้วยสัก ได้ระงับการดำเนินการผลักดันโครงการไปก่อนเพื่อที่จะนำข้อมูลจากทุกฝ่ายนำเสนอต่อนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้พิจารณาและหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะแจ้งกลับลงไปว่าให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ในช่วงเวลานี้ให้ทางกลุ่มชาวบ้านยุติการเคลื่อนไหวถือป้ายหรืออื่นๆ ไปพร้อมกันด้วยแต่การไปจัดกิจกรรมให้องค์ความรู้ตามหมู่บ้านต่างๆ ยังคงทำได้แต่ได้เตือนไม่ให้มีการคุกคามผู้ใดเพราะต่างเป็นญาติพี่น้องกันทั้งนั้นหากเกิดการฟ้องร้องกันขึ้นก็จะยิ่งบานปลายไปกันใหญ่ โดยเฉพาะปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อมูลและภาพผ่านสื่อสาธารณะหรือโชลเชียลมีเดียจนเรื่องเข้าใจกันไปไกลกว่าความเป็นจริง ขณะที่โครงการยังไม่ได้เริ่มต้นก่อสร้างและทั้งฝ่ายเทศบาล ต.ห้วยสัก และชาวบ้านก็ไม่เคยมีการประชุมหารือกันมาก่อนเลยโดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกจึงต้องขอให้ฝ่ายใจเย็น ๆ กันไว้ก่อน

ปัญหาการจัดการกับขยะพื้นที่ ต.ห้วยสัก ดังกล่าวเกิดขึ้นมานานโดยพื้นที่บ้านดงป่าเหมี้ยงเนื้อที่ประมาณ 95.5 ไร่ โดยเทศบาลนครเชียงรายจะนำขยะไปฝังกลบตามศักยภาพของบ่อวันละประมาณ 120 ตัน กระทั่งทางเทศบาล ต.ห้วยสัก ได้มีโครงการโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะดังกล่าวโดยมีกำลังผลิตไม่เกิน 10 เม็กกะวัตต์ สามารถรองรับขยะได้วันละหลายพันตัน ตั้งอยู่ห่างจากบ่อขยะฝังกลบประมาณ 500 เมตร และห่างจากหมู่บ้านดงป่าเหมี้ยงประมาณ 1 กิโลเมตร และหมู่บ้านร่องเผียวประมาณ 2 กิโลเมตรดังกล่าว

ด้านนายธนกิจ กล่าวว่า ชาวบ้านคงจะต้องรอผลการพิจารณาของผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยช่วงนี้ก็จะงดกิจกรรมการเรียกร้องต่างๆ แต่ทางนายอำเภอก็แจ้งว่ากรณีการเข้าไปให้ข้อมูลกับประชาชนตามหมู่บ้านต่างๆ ยังคงสามารถทำได้