"มาม่า" ลบภาพความแก่ ปรับเกมรุกใช้อินฟลูเอนเซอร์ กระตุ้นยอด

ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศ และกำลังซื้อชะลอตัว "มาม่า" ปรับเกมรุกใหม่ โดยเน้นทำการตลาดผ่านคนดัง ในสังคมออนไลน์ หรือ อินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติง คุณ เพชร พะเนียงเวทย์ กรรมการบริษัท และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) บอกว่า ปัจจุบันมาม่า มีอายุ 54 ปีแล้ว จึงพยายามเปลี่ยนมุมมองต่อแบรนด์ ไม่ให้แก่ไปตามอายุ และจากงานวิจัย พบว่า อินฟลูเอนเซอร์ มีผลมาก ต่อการตัดสินใจซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จึงเดินหน้าอย่างจริงจัง
ขณะเดียวกัน ก็ต้องการออกจากคอมฟอร์ตโซนและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเจนใหม่ ๆ เชื่อว่าสิ่งที่สื่อสารออกไป จะเป็นการสร้างแบรนด์อีกมุมหนึ่ง ที่ทำให้แข็งแรงขึ้น
คุณเพชร กล่าวว่า ปัจจุบันคู่แข่งเริ่มหันมาใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น แต่มองว่า การแข่งขันเป็นสิ่งที่ดี และกระตุ้นให้บริษัทฯ ทำอะไรที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงแบรนด์จากต่างประเทศที่เข้ามา เชื่อว่าจะช่วยกันผลักดันให้ตลาดมีขนาดใหญ่ขึ้น, ทำให้ระดับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกว้างขึ้น โดยมีหลายระดับราคา และยังเป็นการพัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้นด้วย
ล่าสุด มาม่า เปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ MAMACREW พร้อม 6 พรีเซนเตอร์ คือ อิ้งค์ วรันธร เปานิล, นนท์ ธนนท์ จำเริญ และ เสือร้องไห้ ที่มีสมาชิกรวม 4 คน มาร่วมสะท้อนแนวคิดที่ว่า มาม่า ไม่ใช่แค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกต่อไป ซึ่งจะเป็นการทรานส์ฟอร์มจากการเป็น สินค้า ไปสู่การเป็น เพื่อนร่วมชีวิต
หลังจากนี้ จะมีการคอลแลป ใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดปี 2569 ที่จะถึงนี้อีกด้วย
อย่างไรก็ดี หากดูในแง่ผลประกอบการของ มาม่า ภายใต้บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ที่รายงานผ่านตลาดหลักทรัพย์ พบว่า ยอดขายรอบ 9 เดือนของปี 2568 ที่ผ่านมา มีจำนวนรวม 20,680 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นลดลงร้อยละ 6.44 และเฉพาะไตรมาส 3 ปี 2568 มียอดขายรวมอยู่ที่ 6,693 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12.17 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นยอดขายในประเทศลดลงร้อยละ 2.24 และยอดขายต่างประเทศลดลงร้อยละ 29.58
โดยมีสาเหตุมาจากกำลังซื้อในประเทศชะลอตัวและการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา กระทบต่อการค้าชายแดน ขณะเดียวกัน แรงงานกัมพูชา ที่เดินทางกลับประเทศจำนวนมาก ส่งผลให้กำลังซื้อภายในประเทศลดลงไปด้วย
ซึ่งคุณ เพชร กล่าวว่า ในมุมการทำกลยุทธ์การตลาด ไม่ได้มองในเรื่องของยอดขายจะลดลง หรือจะเพิ่มขึ้น โดยเชื่อว่า การตลาดต้องนำการขายอยู่แล้ว และในมุมของบริษัทฯ เองก็จะทำการตลาดอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ปัจจุบันคนไทยบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ที่ 54 ซองต่อคนต่อปี ขณะที่ มาม่า เป็นผู้นำตลาด ครองส่วนแบ่ง เกินร้อยละ 50 ปีที่ผ่านมาตลาดรวมในประเทศไม่โตนัก แต่ มาม่า OK ซึ่งเป็นตลาดพรีเมียมเติบโต จึงผลักดันให้ตลาดรวมดูดี
ซึ่งเฉพาะ มาม่า OK มีส่วนแบ่งอยู่ราวร้อยละ 30 เป็นเบอร์หนึ่งในกลุ่มพรีเมียมเช่นกัน แต่แผนในระยะข้างหน้า ต้องการจะผลักดันส่วนแบ่งตลาดของ มาม่า OK ให้เพิ่มขึ้นไปแตะระดับร้อยละ 50 และจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดของแบรนด์โดยรวม เติบโตยิ่งขึ้น
ส่วนแผนการกระตุ้นยอดขาย ผู้บริหาร มาม่า กล่าวว่า จะเน้นออกรสชาติใหม่ เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยที่ชอบลองสิ่งใหม่ ๆ อย่างปีนี้ มีรสชาติใหม่ออกมาเกือบ 10 รสชาติ ส่วนปีหน้าก็จะมีรสชาติใหม่ ๆ ออกมามากกว่า 10 รสชาติ เช่นกัน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
