รีเซต

'ประยุทธ์' ชี้ อปท.ซื้อวัคซีนเอง หวั่นเป็นปัญหาการเมือง ยัน 7 มิ.ย. ได้ฉีดแอสตร้าฯ แน่นอน

'ประยุทธ์' ชี้ อปท.ซื้อวัคซีนเอง หวั่นเป็นปัญหาการเมือง ยัน 7 มิ.ย. ได้ฉีดแอสตร้าฯ แน่นอน
ข่าวสด
31 พฤษภาคม 2564 ( 16:45 )
76
'ประยุทธ์' ชี้ อปท.ซื้อวัคซีนเอง หวั่นเป็นปัญหาการเมือง ยัน 7 มิ.ย. ได้ฉีดแอสตร้าฯ แน่นอน

 

'ประยุทธ์' ย้ำไม่มีปัญหา "อปท." ซื้อวัคซีนเอง ถ้ากฎหมายทำได้ ห่วงแต่ละจังหวัดงบไม่เท่ากัน หวั่นเป็นปัญหาการเมือง ยัน 7 มิ.ย.ได้ฉีดแอสตร้าเซเนก้าแน่นอน

 

 

เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 31 พ.ค. 2564 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยกรุงเทพมหานคร-สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย-เซ็นทรัลเวิลด์-โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ว่า เรามีงบเพียงพอในการจัดหาวัคซีนแน่นอน ปัญหาคือเขาจะขายวัคซีนให้เราเท่าไหร่ ปัญหาไม่ใช่ว่าเราไม่มีเงินซื้อวัคซีน มีมากให้มากเราก็ซื้อมาก มันขึ้นอยู่กับบริษัทใหญ่เขาบริหาร แต่ยืนยันว่าในเดือน มิ.ย. เราจะได้วัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข้ามาแน่นอน

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เราก็มีช่องทางอย่างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งเราได้จองวัคซีนซิโนฟาร์มที่ได้ลงทะเบียนกับรัฐบาล บริษัทเขาก็บริหารโดยแบ่งยอดวัคซีนไปทางโน้น ซึ่งต้องมาดูอีกว่าบริษัทเขาจะให้ยอดเราเท่าไหร่ ส่วนในเรื่องของงบประมาณท้องถิ่นที่จะนำไปจัดซื้อวัคซีน ตนไม่มีปัญหาถ้าทำได้ แต่ข้อสำคัญคือท้องถิ่นมีงบเท่ากันหรือไม่ และจะทำให้เกิดปัญหาหรือเปล่า แต่รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีปัญหาในตรงนี้ การกระจายวัคซีนเราได้แจกจ่ายให้ครบ 76 จังหวัด คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร ส่วนลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมก็อีกเรื่องหนึ่ง รวมถึงการเปิดให้ลงทะเบียนช่องทางอื่นที่ไม่เกี่ยวกับหมอพร้อม แต่ทุกอย่างก็ต้องมารวมกับหมอพร้อม เพราะต้องมีการติดตามหลังการฉีด

 

 

"วันนี้ยอดรวมมีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 3-4 ล้านราย ก็คิดว่าคงดำเนินการได้ตามแผนถ้ามีปัญหาก็ต้องแก้ไข ทั่วโลกมีความต้องการวัคซีนสูงขึ้น โดยเฉพาะประเทศรอบบ้าน ประเทศไทยแม้จะมีผู้ติดเชื้อ 3-4 พันคนทุกวัน แต่เราก็ต้องเอาเข้ามาอยู่ในระบบให้ได้ เอาเข้ามาอยู่ในพื้นที่ควบคุมให้ได้ การตรวจโควิด-19 เชิงรุก ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าขีดความสามารถของเรารองรับได้หรือเปล่า ซึ่งวันนี้เรายังรองรับได้อยู่"

 

 

นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนที่กรมราชทัณฑ์มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะอยู่ในพื้นที่ที่ควบคุมได้ คนที่เป็นโรค คนที่ต้องรักษา การนำเข้าสู่ระบบ คนที่ยังไม่ติดก็ต้องป้องกันระมัดระวัง มีมาตรการที่ชัดเจน แต่บางสถานที่มันแออัดก็เป็นห่วงเรื่องของแรงงาน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯมีปัญหาแน่นอนเนื่องจากคับแคบแออัด ซึ่งเรื่องแคมป์คนงานก็เป็นปัญหาที่หลายประเทศก็เจอ ทั้งสิงคโปร์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น มาเลเซีย

 

 

ฉะนั้นถ้าทุกคนทำตามกรอบกฎหมาย มีการตรวจสอบ ก็น่าจะควบคุมได้ เว้นเสียแต่ว่ามีการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งตนก็ได้ย้ำไปแล้วว่าใครเข้ามายุ่งเกี่ยวในขบวนการนี้ต้องถูกลงโทษสถานหนัก มีบางคนเสนอให้วางลวดหีบเพลงรอบประเทศ ไปคิดดูสิว่ามันตั้งกี่กิโลเมตร และถ้าวางไว้ไม่มีคนเฝ้ามันจะทำได้หรือไม่ เราต้องกระจายคนไปวางทุกตารางเมตรเลยหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งเราก็วางแผนตรวจเข้มทุกช่องทางที่ข้ามไปข้ามมาอยู่ ส่วนพื้นที่อื่นก็ใช้การลาดตระเวนเอา

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนได้คุยกับประธานหอการค้าว่าจะซื้อวัคซีนที่ไหนก็ตาม อยู่ที่บริษัทเขาจะขายให้ เพราะมีเงินบางครั้งก็ซื้อไม่ได้ทั้งหมด ถ้าเขาไม่ขาย ซึ่งบริษัทเขามีสาขา เขาก็ต้องไปบริหารในบริษัทใหญ่ในภาพรวม แต่โชคดีที่เราได้มีการเจรจาตรงนี้ไปแล้ว อาจจะพูดจากันได้ง่ายหน่อย ซึ่งบริษัทเป็นเรื่องของการค้าโดยการพาณิชย์ของเขา แต่ช่องทางการนำเข้าคือรัฐบาล ไม่ว่าจะซื้อจากที่ไหนก็ตามต้องเอาจำนวนของรัฐบาลไปแบ่งให้กับตรงโน้น

 

 

เมื่อถามว่า ที่นายกฯ เห็นด้วยที่จะให้อปท.ซื้อวัคซีนต้องไปแก้คำสั่งของกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่และจะทำได้เมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่า กฎหมายว่าอย่างไรล่ะ ถ้ามันได้มันก็ได้แหละ ไม่มีปัญหาหรอก ต้องไปดูให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย และเรื่องของเงินท้องถิ่น มันเท่าเทียมกันทุกจังหวัดหรือเปล่า จะทำอย่างไรกับการบริหารตรงนี้ ถึงอย่างไรก็ตามรัฐบาลยืนยันว่าจะจัดหาวัคซีนให้กับทุกท้องถิ่นอยู่แล้ว ฉะนั้น เราต้องให้ตามข้อเท็จจริงและตามข้อมูลของแต่ละจังหวัด มากบ้างน้อยบ้างก็ต้องเข้าใจว่าเราบริหารให้คนหลายสิบล้านคนมันลำบากเหมือนกัน แต่รัฐบาลก็จะทำเต็มที่

 

 

นายกฯ กล่าวอีกว่า จะปลดล็อกอะไรถ้าเขาทำได้ก็คือทำได้ ก็ศึกษาตามข้อกฎหมาย ถ้าทำได้ก็ทำเลย ปัญหาอยู่ที่ว่าทำได้จริงหรือเปล่า มีเงินเพียงพอหรือไม่ ทุกจังหวัดจะว่าอย่างไรถ้าจังหวัดโน้นได้มากกว่า และจังหวัดนี้ได้น้อยกว่า ตนไม่อยากให้เป็นปัญหาทางการเมืองต่อไป ก็ยินดีที่วันนี้ภาคประชาชนมาร่วมมือ

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนก็พูดมาตลอดว่ารัฐบาลจะเดินหน้าวัคซีน แม้กระทั่งวัคซีนที่จะมาในอีก 2-3 วันข้างหน้า ที่ให้ราชวิทยาลัยฯ ไปใช้ ก็เป็นวัคซีนที่รัฐบาลดิวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งวัคซีนที่เข้ามาแต่เดิมรัฐบาลได้ 2 ล้านโดส ก็จะเหลือ 1 ล้านโดส เป็นของราชวิทยาลัยฯ 1 ล้านโดส ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นเรื่องของการที่ให้ประชาชนอยู่แล้ว ตนจะไปมีปัญหาอะไรล่ะ ฉะนั้นการจัดซื้อมี 2 อย่างคือ ซื้อได้และซื้อไม่ได้ และมีวัคซีนให้ซื้อหรือเปล่า ต้องคิดตรงนี้ด้วย

 

 

นายกฯ กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาจะได้มากน้อยแค่ไหนต้องใช้สติปัญญาและความร่วมมือของทุกคน เรื่องนี้ตนโทษใครไม่ได้ แล้วแต่จะคิด แต่ขอความกรุณาให้ฟังว่ารัฐบาลพูดอะไร โดยเฉพาะตนพูดอะไร และไม่ใช่ว่าตนพูดวันนี้แล้วไปลบคำเก่า เพียงแต่ถ้ามันจำเป็นต้องเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน ตนตัดสินใจผ่านศบค.ซึ่งมีกระทรวงต่างๆรวมทั้งรมว.สาธารณสุขที่มีการหารือในรายละเอียดกัน แนะนำข้อสรุปที่เป็นมติมาขออนุมัติจากตน ซึ่งถ้าเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรก็พร้อมอนุมัติ ไม่ใช่อยู่ดีๆ แล้วตนจะสั่งให้ทำทันที มันไม่ได้ เราต้องทำงานเป็นคณะ

 

 

"ยืนยันว่าผมไม่ได้รวบอำนาจ มีการตั้งกลไกขึ้นมาบริหารวัคซีนเพื่อแก้ปัญหาโควิดซึ่งรับฟังความเห็นจากทุกหน่วยงานโดยเฉพาะแพทย์พยาบาลและบุคลากรด้านสาธารณสุขแล้วจะไม่เชื่อพวกเขาหรือขอร้องอย่าไปฟังคำพูดที่บิดเบือนเยอะๆ มันอันตราย วันนี้เราต้องมีภูมิต้านทาน โดยเฉพาะไม่เชื่ออะไรง่ายๆ อย่าปล่อยให้เค้าชักจูงอะไรง่ายๆก็แล้วกัน ผมยืนยันรัฐบาลทำเต็มที่ให้ประชาชนและประเทศชาติ" ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกฯพูดถึงตรงนี้ได้เอามือทุบไปที่หน้าอกข้างซ้าย 3 ครั้ง พร้อมกล่าวว่า "มันคือหน้าที่ของผม"

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การตรวจคุณภาพนั้น ของมันมาเยอะก็ต้องใช้เวลาตรวจสอบนิดนึง ประมาณ 7 วันซึ่งวันนี้ก็เร่งรัดไปแล้วให้เร็วขึ้น ยืนยันว่ามีวัคซีนแน่นอน เพียงแต่ว่าวันนี้จะมากน้อยแค่ไหน แต่น่าจะเพียงพอที่จะฉีดในเดือน มิ.ย. และมีหลายยี่ห้อ ทั้งนี้ นายกฯต้องฟังทุกเรื่อง ฟังทุกคนและต้องพยายามทำให้ไม่งง ซึ่งมีการเช็คข้อมูลโดยตรงกับกระทรวงสาธารณสุขว่าเท่าไหร่ อย่างไร ต่างคนก็หวังดีพูดนั่นพูดนี่ไป แต่ทำได้หรือไม่คืออีกเรื่อง

 

 

"ขอให้ฟังผม ยืนยันว่าจะทำให้ประชาชนคนไทยได้ฉีดวัคซีนทุกคน เว้นแต่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในโลกที่วันนี้ก็ยังไม่รู้ ดูสถานการณ์รอบบ้านเราโดยเฉพาะในภูมิภาคเกิดอะไรขึ้นบ้าง ความขัดแย้งก็สูง รวมถึงในภูมิภาคอื่นๆที่ไม่ใช่ปัญหาแค่โควิด-19 อย่างเดียว เทศไทยอยู่ท่ามกลางสถานการณ์โดยรอบอย่างนี้ เราจึงต้องบริหารอย่างนี้ ให้มีการถ่วงดุลอำนาจให้ได้ ให้เราเป็นหลักแกนกลางของอาเซียนให้ได้ มองอย่างนั้นด้วย ไม่ใช่มองเฉพาะประเทศเรา ตัวเรา กลุ่มเรา นายกฯ ไม่ใช่กลุ่มใครทั้งสิ้น นายกฯไม่มีธุรกิจ แต่นายกฯจะดูแลธุรกิจ นี่คือหน้าที่นายกฯ หน้าที่รัฐบาล ยืนยันว่าในวันที่ 7 มิ.ย. จะต้องมีวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าฉีดแน่นอน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง