SSP โชว์กำไรสุทธิครึ่งปีแรกโต 29% ประเมินครึ่งปีหลังทะยานต่อ หนุนผลงานปีนี้นิวไฮต่อเนื่อง
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯมีกำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ที่ 367 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานเติบโตได้ดีอยู่ที่ 364 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ งวดไตรมาส 2/2563 มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 150 ล้านบาท ลดลง 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการรับรู้รายการพิเศษ คือการบันทึกผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นเพียงการรับรู้ทางบัญชี อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการดังกล่าว SSP มีกำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส2/2563 อยู่ที่ 208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% ยังคงสร้างสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง
“ในส่วนของงบไตรมาส 2/63 นั้น อยากให้โฟกัสที่กำไรอันเกิดจากการดำเนินงานมากกว่า เพราะสะท้อนการเติบโตของธุรกิจอย่างแท้จริง ซึ่ง SSP ยังสามารถทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากความมุ่งมั่น ตั้งใจเหมือนเช่นเคย ส่วนผลขาดทุนที่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนนั้นเป็นเพียงการบันทึกตัวเลขทางบัญชีเท่านั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจริง จึงอยากจะชี้แจงให้นักลงทุนทราบโดยทั่วถึงกัน”
นายวรุตม์ กล่าวว่า ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานดีขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงของฤดูกาลที่แสงอาทิตย์มีคุณภาพดีที่สุด ทำให้ปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทฯมีการรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มประเทศเวียดนาม และมองโกเลีย รวม 55 เมกะวัตต์ ตลอดจนโรงไฟฟ้าซึ่งเปิดดำเนินการระหว่างปี 2561 ทั้งในไทยและญี่ปุ่นรับรู้รายได้เต็มปี รวมถึงในไตรมาส 2/2563 ยังเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มจากโครงการ Yamaga ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตตามสัญญา 30 เมกะวัตต์เพิ่มเติม หลังจากที่สามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD) เมื่อวันที่ 30พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ก่อนกำหนดเป็นเวลา 1 เดือน ดังนั้นส่งผลให้ปัจจุบัน SSP มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาในมือรวม 142 เมกะวัตต์
“ภาพรวมผลงานครึ่งปีแรก ยังคงรักษาการเติบโตได้ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ส่วนแนวโน้มช่วงครึ่งปีหลังคาดว่า ยังเติบโตได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากปีนี้มีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าโครงการ Yamaga ได้เต็มที่ อีกทั้งในปี 64 นี้ จะมีการรับรู้รายได้ทั้งโรงไฟฟ้าโครงการ และโรงไฟฟ้าโครงการลมในเวียดนามอีกด้วย และบริษัทยังคงเดินหน้ามองหาโครงการใหม่ มาเติมในพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับรายได้และกำไรทำสถิติสูงสุดมาตลอด ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเรามีเป้าหมายต้องการมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 400 เมกะวัตต์ ภายใน 3-5 ปี ข้างหน้า” นายวรุตม์ กล่าวในที่สุด