รีเซต

ภาษีโซลาร์กดส่งออกไทยหดตัวใกล้ศูนย์

ภาษีโซลาร์กดส่งออกไทยหดตัวใกล้ศูนย์
TNN ช่อง16
2 พฤษภาคม 2568 ( 18:08 )
9

วันที่ 21 เมษายน 2025 สหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) และการอุดหนุน (CVD) ขั้นสุดท้ายต่อแผงโซลาร์เซลล์และชิ้นส่วนจากไทยโดยภาษี AD/CVD ขั้นสุดท้ายที่ไทยถูกเรียกเก็บมีอัตรารวมสูงถึง 375.19% – 972.23% ซึ่งสูงกว่าอัตราภาษีที่ประกาศขั้นต้นอย่างมีนัยสำคัญ 

ตัวอย่างเช่น บริษัทซันไชน์ อิเลคทริคอล และไท่ฮั้ว นิว เอ็นเนอร์ยี ถูกเรียกเก็บภาษีขั้นสุดท้ายในอัตราสูงสุดถึง 972.23% จากขั้นต้นที่ถูกเรียกเก็บที่ 189.20% ขณะที่บริษัทอื่น ๆ ของไทยถูกเรียกเก็บในอัตรา 375.19% จากขั้นต้นที่ถูกเรียกเก็บที่ 80.72% 

ซึ่งการถูกเรียกเก็บ AD/CVD จากสหรัฐฯ ในอัตราที่สูงดังกล่าวจะกระทบต่ออุตสาหกรรมส่งออกโซลาร์เซลล์ของไทยอย่างรุนแรง เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกแผงโซลาร์เซลล์และชิ้นส่วนที่สำคัญของไทย โดยไทยพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ ราว 90% ของมูลค่าการส่งออกแผงโซลาร์เซลล์และชิ้นส่วนทั้งหมด


ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB EIC ประเมินการส่งออกแผงโซลาร์เซลล์และชิ้นส่วนจากไทยไปสหรัฐฯ มีแนวโน้มหดตัวใกล้ศูนย์ในช่วงปี 2569 จากปัจจัยสำคัญ 2 ด้าน 

คือ 1) ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันด้านราคา เมื่อเทียบกับประเทศผู้ผลิตในเอเชียที่ไม่ได้ถูกเก็บภาษีจากการที่ไม่โดนข้อกล่าวหาว่ามีการอุดหนุนการผลิตและประกอบชิ้นส่วนจากจีนเพื่อส่งออก เช่น ลาว, อินโดนีเซีย, อินเดีย และเกาหลีใต้ รวมถึงเสียเปรียบด้านอัตราภาษีเมื่อเทียบกับมาเลเซียและเวียดนาม ซึ่งถูกเก็บภาษีขั้นต่ำเพียง 14.64% และ 120.69% ขณะที่ไทยอยู่ที่ 375.19% แม้แต่บริษัททั่วไปยังต้องเผชิญภาษีสูงกว่ามาเลเซียถึงกว่า 10 เท่า

 2) ผลกระทบจากภาษีขั้นต้นได้เริ่มส่งผลอย่างชัดเจนแล้ว โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2567 ที่เริ่มบังคับใช้ภาษี AD/CVD ไทยสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ อย่างรุนแรง จาก 28% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567  เหลือเพียง 6% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2568


ขณะที่คู่แข่งอย่างอินโดนีเซียขยับขึ้นจาก 2% เป็น 16% ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกของไทยในไตรมาสแรกของปี 2568 หดตัว 52%YOY เหลือเพียง 12,623 ล้านบาท ซึ่งอัตราภาษีขั้นสุดท้ายที่สูงกว่าขั้นต้นมาก จะทำให้การส่งออกไปสหรัฐฯ มีแนวโน้มหายไปเกือบทั้งหมดภายในปี 2569

SCB EIC มองว่าผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์และชิ้นส่วนสามารถดำเนินการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ผ่าน 3 แนวทาง 

1. การเข้าไปเป็น Supplier สินค้าขั้นกลาง ให้กับโรงงานผลิตโซลาร์เซลล์ในประเทศที่ได้รับผลกระทบเรื่องสงครามการค้าของสหรัฐฯ ต่ำ 

 2. เร่งขยายตลาดการส่งออกสินค้าไปยังประเทศที่มีศักยภาพการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่โดดเด่น เช่น อินเดียประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง กลุ่มทวีปยุโรปและออสเตรเลีย 

3. ขยายรายได้ไปในธุรกิจผลิตพลังงานสะอาดทั้งในไทยและต่างประเทศ 

ขณะเดียวกัน ภาครัฐควรเร่งปรับแนวทางการส่งเสริมการลงทุน ให้สอดคล้องกับบริบทการค้าระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลง 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง