รีเซต

ไทยเสี่ยง “เม็กซิโก”ตามรอยทรัมป์ จ่อขึ้นภาษีนำเข้า 50% ประเทศไม่มี FTA รวมไทย จีน เกาหลีใต้ อินเดีย

ไทยเสี่ยง “เม็กซิโก”ตามรอยทรัมป์ จ่อขึ้นภาษีนำเข้า 50% ประเทศไม่มี FTA รวมไทย จีน เกาหลีใต้ อินเดีย
TNN ช่อง16
11 กันยายน 2568 ( 13:48 )
16

เม็กซิโกเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงสุดถึง 50% สำหรับรถยนต์และสินค้าอื่น ๆ ที่ผลิตจากจีนและผู้ส่งออกในเอเชียหลายประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ 


สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า "มาร์เซโล เอ็บราร์ด"  รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเม็กซิโกกล่าวเมื่อวันพุธว่า เม็กซิโกเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าครอบคลุมสินค้ากว่า 1,400 หมวดหมู่จากประเทศที่เม็กซิโกยังไม่มีข้อตกลงการค้า หรือ FTA  เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ โดยจีน เกาหลีใต้ และอินเดีย เป็นหนึ่งในประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีที่เสนอ ซึ่งต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสก่อน ซึ่งภาษีนำเข้าจะครอบคลุมสินค้าต่าง ๆ เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ เหล็ก ของเล่น และเฟอร์นิเจอร์ โดยมีอัตราตั้งแต่ 10% ถึง 50% ขึ้นอยู่กับหมวดสินค้า


ประเทศอื่น ๆ ที่ไม่มีข้อตกลงการค้ากับเม็กซิโกและจะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีนี้ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย รัสเซีย และตุรกี โดยการดำเนินการนี้ยังมีเป้าหมายป้องกันไม่ให้บริษัทจีนใช้ประเทศเหล่านี้เป็นเส้นทางส่งออกเพื่อเลี่ยงภาษี ส่วนสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น มาเลเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์ จะไม่ถูกเก็บภาษี


เอ็บราร์ด ระบุว่า เม็กซิโกจะปรับเพิ่มขึ้นไปจนถึง 50% ซึ่งองค์การการค้าโลก (WTO) อนุญาตให้ทำได้ เพราะราคาที่เข้าสู่เม็กซิโกต่ำกว่าราคามาตรฐานที่เรียกว่า "reference prices" พร้อมอ้างอิงถึงการเก็บภาษีรถยนต์ว่ามีเป้าหมายหลัก คือ การปกป้องการจ้างงาน 


ทั้งนี้เม็กซิโกได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางใหญ่ที่สุดสำหรับการส่งออกรถยนต์จากจีน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับสหรัฐในช่วงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังทำสงครามการค้ากับจีน มาตรการนี้จึงเป็นการเอาใจคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเม็กซิโก แต่ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะขยายความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ เนื่องจากผู้ผลิตจีนพยายามหาตลาดใหม่แทนสหรัฐ


สหรัฐและแคนาดามีข้อตกลงการค้าเสรีกับเม็กซิโกภายใต้ USMCA ทำให้ไม่ถูกกระทบจากมาตรการนี้ ทั้งสองประเทศก็มีท่าทีปิดกั้นการนำเข้ารถยนต์จากจีนเช่นเดียวกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

"กาเบรียลา ซิลเลอร์" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจของธนาคาร Banco Base กล่าวว่า  นี่เป็นมาตรการกีดกันทางการค้าในสไตล์ของทรัมป์ ที่บ่งชี้ถึงความพยายามสร้างกลุ่มพันธมิตรร่วมกันเพื่อต่อต้านจีน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่คาดหมายได้ก่อนการทบทวน USMCA เม็กซิโกทำเช่นนี้เพื่อเอาใจทรัมป์ และในขณะเดียวกันก็สร้างรายได้เพิ่ม แต่ก็มีต้นทุนที่จะกระทบทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต


ข้อเสนอดังกล่าวถูกรวมอยู่ในร่างงบประมาณปี 2569 ที่รัฐบาลส่งให้สภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ ซึ่งบลูมเบิร์กเคยรายงานครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม ร่างกฎหมายนี้มีแนวโน้มสูงที่จะผ่านความเห็นชอบ เนื่องจากพรรครัฐบาลครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา โดยเอ็บราร์ดย้ำว่าภาษีจะมีผลบังคับใช้ภายใน 30 วันหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาของเม็กซิโก


"อัลฟอนโซ รามิเรซ คูเอยาร์" สมาชิกคณะกรรมาธิการการคลังของสภาผู้แทนราษฎร กล่าวทางโทรศัพท์ว่า สมาชิกสภากำลังประเมินอัตราภาษีที่เสนอสำหรับแต่ละสินค้า ก่อนที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาในคณะกรรมาธิการ โดยเขากล่าวว่ามาตรการนี้จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าในอเมริกาเหนือ ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ ทั้งนี้เม็กซิโกเพิ่งเพิ่มภาษีสิ่งทอ รองเท้า และสินค้านำเข้ารายย่อยจากร้านค้าออนไลน์อย่าง Shein และ Temu ไปก่อนหน้านี้แล้ว


ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์นั่งของจีน (China Passenger Car Association) ระบุว่า เม็กซิโกได้แทนที่รัสเซียกลายเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของการส่งออกรถยนต์จีน โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้นเกือบ 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน


บริษัทรถยนต์สหรัฐอย่าง General Motors, Ford Motor Co. และ Stellantis NV (เจ้าของแบรนด์ Chrysler, Jeep และ Ram) ต่างก็ส่งออกรถยนต์ที่ผลิตในจีนไปยังเม็กซิโกและตลาดละตินอเมริกา ส่วนรถยนต์จากค่ายจีน เช่น BYD ก็กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนขับรถบริการเรียกรถอย่าง Uber


"กีเยร์โม โรซาเลส" ผู้อำนวยการสมาคมผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เม็กซิโก (AMDA) กล่าวว่า ราคารถยนต์ในเม็กซิโกมีแนวโน้มจะปรับสูงขึ้นจากมาตรการภาษีครั้งนี้ การตัดสินใจของรัฐบาลเม็กซิโกครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับการค้ารถยนต์ เพราะเมื่อสต็อกสินค้าหมดลง ราคาจะต้องถูกปรับเพิ่มขึ้น การแข่งขันในตลาดภายในประเทศจะลดลง และผู้บริโภคก็จะมีทางเลือกน้อยลง


เขายังเสริมอีกว่า การขึ้นภาษีจะกระทบต่อการลงทุนของผู้จัดจำหน่ายในประเทศที่ได้สร้างเครือข่ายร้านจำหน่ายรถยนต์จากจีนกว่า 800 แห่ง คิดเป็นการลงทุนมากกว่า 60,000 ล้านเปโซ หรือราว 3.2 พันล้านดอลลาร์ และจ้างงานโดยตรงกว่า 32,000 ตำแหน่ง ต้นทุนการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบก็จะสูงขึ้นด้วย


อุตสาหกรรมอื่น ๆ ก็อาจเผชิญความเสี่ยงเช่นเดียวกัน จีนมีดุลการค้าเกินดุลกับเม็กซิโกสูงถึง 71,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ทางการเม็กซิโกได้เรียกร้องให้บริษัทต่าง ๆ หันไปใช้ผู้ผลิตในประเทศมากขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาอันสั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง