อย.สหรัฐเผย ยาโมลนูพิราเวียร์ กันป่วยโควิดหนักได้ แต่เพียง 30%

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (เอฟดีเอ) ระบุในรายงานเบื้องต้นว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ ยาเม็ดต้านโควิด-19 ของบริษัทเมอร์ค ผู้ผลิตยาจากสหรัฐอเมริกา มีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ให้ป่วยหนักได้ แต่เตือนว่าสตรีตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ยานี้ราะประโยชน์ที่ได้จากยาไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่หญิงตั้งครรภ์อาจเจอ

บริษัทเมอร์คได้เผยแพร่รายงานผลการทดลองยาโมลนูพิราเวียร์ทางคลินิกฉบับเต็ม ระบุว่า ยาดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการช่วยลดอัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีความเสี่ยงได้ 30% เมื่อทานยาภายใน 5 วันหลังจากพบว่าติดเชื้อ โดยระดับประสิทธิภาพดังกล่าวลดลงจากเดิมซึ่งอยู่ที่ราว 50% ที่มีการระบุไว้ในรายงานที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้า

ในรายงานระบุว่า ไม่มีหญิงตั้งครรภ์อยู่ในกลุ่มตัวอย่างของการทดลอง แต่ได้ทำการทดลองในหนูและกระต่ายที่ตั้งท้องพบว่า มีความเสี่ยงสูงที่ทารกในครรภ์จะมีน้ำหนักน้อยและมีรูปร่างผิดปกติหลังจากทานยาดังกล่าว และยังมีความเสี่ยงทั้งที่รู้อยู่แล้วและอาจยังไม่รู้ในผู้ป่วยที่เป็นหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรและผู้ป่วยเด็ก

รายงานนี้มีขึ้นเพื่อเป็นข้อชี้แนะสำหรับคณะผู้เชี่ยวชาญของเอฟดีเอ ซึ่งประชุมกันเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นกรณีฉุกเฉินได้หรือไม่ หากได้รับการอนุมัติจะถือเป็นก้าวที่สำคัญในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจะเป็นวิธีใหม่ในการช่วยรักษาผู้ติดเชื้อ

ก่อนหน้านี้รายงานเบื้องต้นของเอฟดีเอยืนยันว่า ยาเม็ดรักษาโควิดดังกล่าวมีประสิทธิภาพในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางและกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเข้ารักษาในโรงพยาบาล