รีเซต

สุราษฎร์ฯ นำสนามแข่งรถเอกชน ทำ รพ.สนาม หลังเจอต่างด้าวติดเชื้อ 74 ราย จาก 121 ราย

สุราษฎร์ฯ นำสนามแข่งรถเอกชน ทำ รพ.สนาม หลังเจอต่างด้าวติดเชื้อ 74 ราย จาก 121 ราย
ข่าวสด
6 สิงหาคม 2564 ( 16:00 )
32
สุราษฎร์ฯ นำสนามแข่งรถเอกชน ทำ รพ.สนาม หลังเจอต่างด้าวติดเชื้อ 74 ราย จาก 121 ราย

 

สุราษฎร์ฯ นำสนามแข่งรถเอกชน ทำ รพ.สนาม หลังเจอแรงงานต่างด้าวโรงงานยางพาราติดเชื้อ 74 ราย จากการสุ่มตรวจ 121 ราย

 

 

วันที่ 6 ส.ค.64 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าโรงช้าง หมู่ 4 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอพุนพิน หลังพบผู้ติดเชื้อจากโรงงานอุตสาหกรรมยางพาราของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ผธานี ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าว จำนวน 74 ราย จากการสุ่มตรวจแรงงานทั้งหมด 121 ราย การตรวจพบในครั้งนี้ถือว่าเป็นคลัสเตอร์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคมากที่สุดของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

 

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาร่วมประชุมเจ้าหน้าที่ประกอบด้วยนายอำเภอพุนพิน อุตสาหกรรมจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าโรงช้าง นายก อบต.ท่าโรงช้าง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และตัวแทนบริษัท ได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายประสานงานและเปิดเผยข้อมูล โดยเฉพาะการป้องกันการระบาดในกลุ่มแรงงานต่างด้าวของโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ที่มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และได้ลงพื้นที่การจัดเตรียมความพร้อมตั้งสถานที่กักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่สถานีบริการน้ำมันเก่าที่ปิดบริการแล้ว และโรงพยาบาลสนาม ที่สนามแข่งรถบริษัทสุราษฏร์มอเตอร์สปอร์ต เพื่อใช้เป็นที่กักตัวแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวที่ติดเชื้อ

 

 

นอกจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่เข้าสุ่มตรวจตลาดนัดบิเวณ กม.18 ซึ่งอยู่บริเวณใกล้กับบริษัทที่พบแรงงานต่างด้าวติดเชื้อเพราะเชื่อว่ากลุ่มแรงงานต่างด้าวจะเข้ามาใช้บริการภายในตลาดดังกล่าวอาจจะทำให้เชื้อแพร่กระจายเป็นวงกว้างต่อไป

 

 

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีพบผู้ติเชื้อรายใหม่ จำนวน 161 ราย อำเภอพุนพินพบมากที่สุด 89 ราย ส่วนคลัสเตอร์ร้านอาหารบนเกาะสมุยยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องวันนี้พบเพิ่มอีก 7 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 3898 ราย เสียชีวิต 26 ราย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง