รีเซต

รัฐบาลเดินหน้าประมูลข้าวสต๊อก เน้นความโปร่งใสและผลประโยชน์ของประเทศ

รัฐบาลเดินหน้าประมูลข้าวสต๊อก เน้นความโปร่งใสและผลประโยชน์ของประเทศ
TNN ช่อง16
12 กรกฎาคม 2567 ( 21:26 )
28

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการประมูลข้าวสารหอมมะลิในสต๊อกของรัฐบาลล็อตสุดท้าย 15,000 ตัน หรือข้าว 10 ปีที่เก็บไว้ในคลังกิติชัย และพูนผลเทรดดิ้ง จ.สุรินทร์ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้กระบวนการประมูลเป็นไปอย่างโปร่งใส และคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นสำคัญ


ประเด็นที่ 1: การตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มงวดเพื่อความโปร่งใส


รัฐบาลได้สั่งการให้คณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เสนอซื้อข้าวสารดำเนินการอย่างเข้มงวด เพื่อให้การประมูลเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม จากการตรวจสอบพบว่ามี 3 บริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลที่เคยสร้างความเสียหายให้กับองค์การคลังสินค้า (อคส.) ในอดีต แม้จะไม่ได้เป็นคู่กรณีโดยตรง แต่เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รัฐบาลจึงตัดสินใจตัดสิทธิ์ทั้ง 3 บริษัทออกจากการประมูลครั้งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเข้มงวดและเอาจริงเอาจังของรัฐบาลในการดำเนินการประมูลอย่างโปร่งใส


ประเด็นที่ 2: การเปิดโอกาสให้ผู้เสนอราคารายอื่นเพื่อผลประโยชน์ของรัฐ


หลังจากการตัดสิทธิ์ 3 บริษัท รัฐบาลได้เปิดโอกาสให้ผู้เสนอซื้อรายอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนได้เข้าร่วมการเจรจาต่อรองราคา โดยกำหนดให้ยึดราคาขั้นต่ำที่ กก.ละ 19.07 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ผู้เสนอสูงสุดเคยให้ไว้ในการประมูลก่อนหน้า การเปิดโอกาสนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้การประมูลดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น แต่ยังเป็นการส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม และเพิ่มโอกาสให้รัฐได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการขายข้าวสต๊อก


ประเด็นที่ 3: ความพยายามของรัฐบาลในการต่อรองราคาเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ


รัฐบาลได้มอบหมายให้คณะกรรมการรับ-เปิดซองและต่อรองราคาทำหน้าที่เจรจาต่อรองกับผู้เสนอซื้อที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ แม้จะมีการกำหนดราคาขั้นต่ำไว้ที่ กก.ละ 19.07 บาท แต่รัฐบาลก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ได้ราคาสูงกว่านั้น เพื่อให้การขายข้าวสต๊อกเกิดประโยชน์ต่อประเทศมากที่สุด ความพยายามนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลในการบริหารจัดการทรัพยากรของชาติอย่างมีประสิทธิภาพ



การประมูลข้าวสต๊อกรัฐบาลในครั้งนี้ได้ดำเนินการไปด้วยความโปร่งใสและยึดถือผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอซื้ออย่างเข้มงวด การเปิดโอกาสให้ผู้เสนอราคารายอื่นเข้าร่วมการแข่งขัน และความพยายามในการต่อรองราคา ล้วนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการบริหารจัดการข้าวสต๊อกอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ การประมูลนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการระบายข้าวสต๊อกคงค้างที่สะสมมานาน และจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมข้าวไทยในระยะยาว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง