รวบ ‘อ้ายตู่’ ดูดไป 2 เม็ดคลั่งเต็มคาราเบล ถือมีดพังเสาข้างถนน ทำลายต้นยางชาวบ้าน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ 30 ตุลาคม 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ได้รับแจ้งเหตุมีชายคลุ้มคลั่ง ถือมีดพร้าและมีดกรีดยาง อาละวาดทำลายทรัพย์สินทางราชการ และทรัพย์สินชาวบ้านเสียหายจำนวนมาก ในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด (ใกล้ทางพาดรถไฟ) หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.ห้วยยอด ก่อนจะประสานกำลังตำรวจชุดสายตรวจ 20 และสายตรวจ ต.ลำภูรา กว่า 10 นาย พร้อมด้วยอุปกรณ์ไม้ง่าม เข้าตรวจสอบและเข้าระงับเหตุอย่างเร่งด่วน
ถึงที่เกิดเหตุริมถนนสายเพชรเกษม พบนายสมชาย หรืออ้ายตู่ อายุ 34 ปี คลุ้มคลั่งอยู่ในอาการลุกลี้ลุกลน ถือมีดพร้าและมีดกรีดยางอยู่ในมือ ก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าจับกุม โดยอ้ายตู่ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมใส่กุญแจมือแต่โดยดี ก่อนจะให้อ้ายตู่ ไปชี้จุดที่ก่อเหตุ ทำลายเสาป้าบอกทางริมถนนพังเสียหาย พร้อมทั้งถอดเสาขึ้นมาจากดิน จำนวน 2-3 เสา ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการ และนำไปชี้จุดบริเวณภายสวนยางพาราของชาวบ้าน หลังจากที่นายสมชาย ได้บุกเข้าไปเดินเหยียบ และถอนต้นยางพารา อายุ 2 เดือน กว่า 100 ต้นเสียหาย มูลค่าความเสียหายประมาณ 5,000 – 10,000 บาท
ขณะที่นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตัวอ้ายตู่ ขึ้นรถผู้สื่อข่าวได้สอบถาม โดยอ้ายตู่ บอกว่า ยอมรับว่าเสพยาเสพติด ซึ่งเป็นยาบ้าดูดเข้าไป 2 เม็ด ที่ออกมาทำลายข้าวของและทรัพย์สินเนื่องด้วยความเครียด ในเรื่องของครอบครัว และอีกหลายๆเรื่อง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวขึ้นรถสายตรวจ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยอด
นางยุกล้วย อายุ 65 ปี ผู้เป็นแม่อ้ายตู่ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายออกจากบ้าน โดยขอเงินตนไป 30 บาท ตนก็ให้ไป โดยที่บอกว่าจะไปร้านค้า โดยถือถังมา 1 ใบ แต่ไม่เห็นว่าถือมีดพร้าออกมา ก่อนที่เพื่อนบ้านและเจ้าของสวนจะมาบอกว่าลูกคลั่งออกมาทำลายทรัพย์สินคนอื่น ก่อนหน้านี้ลูกชายสร้างปัญหาความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านมาตลอด เช่นลักขโมย เรื่องอยู่บนโรงพักหลายเรื่อง แต่บางเรื่องเจ้าทุกข์ไม่ได้ติดใจเอาความ และเคยถูกจับยาเสพติดแต่เจ้าหน้าที่ก็ปล่อยตัวกลับออกมา โดยเป็นแบบนี้มากว่า 6 ปีแล้ว
นางยุกล้วย กล่าวว่าอีกว่า ในความรู้สึกตนเต็มทนแล้วกับลูกคนนี้ ลูกชายไม่ได้ได้เรียกตนว่าแม่ แต่กลับเรียกว่า อีกล้วย เรียกพ่อว่าไอ้บูรณ์ และเคยพูดข่มขู่ไว้ว่าจะฆ่าพ่อกับแม่และคนในบ้านให้ตายสักคน อยู่อย่างหวดผวามาตลอด บางครั้งต้องหนีไปอยู่ในสวนยางพารา กลัวว่าลูกจะทำร้ายเมื่อเวลาคลั่งขึ้นมา และครั้งนี้อยากให้ตำรวจจับนำเอาไปขังไปเลย ตามที่ตำรวจเขาจะขังไว้กี่ปีกี่เดือน นานเท่าไหร่ยิ่งดี หากยังคงออกมาอยู่ข้างนอกอีกก็สร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านและทำให้คนในครอบครัวอยู่ไม่เป็นสุขอีก
ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนต่างเอื้อมระอากับพฤติกรรมของอ้ายตู่ และที่ผ่านมาเคยเข้าทำลายต้นยางพาราของสวนดังกล่าวมาแล้ว 1 ครั้ง และชอบลักขโมยข้าวของชาวบ้าน รวมทั้งสร้างความเดือดร้อนรำคาญขว้างปาสิ่งของใส่รถของผู้คนที่ขับผ่านไปมาแล้วเช่นเดียวกัน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการแจ้งในข้อกล่าวหา ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ เสพยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) และได้แนะนำให้เจ้าของสวนยางพาราที่ได้รับความเสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มในอีกข้อกล่าวหา