รีเซต

คลังเผยเสนอ10มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจากโควิด-19 ชี้แจกเงินไม่ใช่เรื่องแปลกสิงคโปร์-ฮ่องกงก็ทำ

คลังเผยเสนอ10มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจากโควิด-19 ชี้แจกเงินไม่ใช่เรื่องแปลกสิงคโปร์-ฮ่องกงก็ทำ
มติชน
5 มีนาคม 2563 ( 16:39 )
229

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า มาตรการดูแลและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัส โควิด-19 ที่จะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เศรษฐกิจในวันที่ 6 มีนาคมนั้นในเรื่องแจกเงินเป็นแค่ 1 ใน 10 มาตรการนำเสนอ โดยเรื่องแจกเงินเป็นแค่ส่วนหนึ่งในมาตรการเท่านั้น ดังนั้นไม่อยากให้ไปโพกัสเรื่องนี้มากนั้น สิ่งสำคัญที่กระทรวงการคลังและรัฐบาลต้องการเห็นทำอย่างไรให้ธุรกิจได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สามารถอยู่ได้ และรักษาการจ้างแรงงานไว้ ดังนั้นมาตรการออกมามีหลายด้านทั้งการช่วยเหลือด้านการเงินและการคลัง และจะมีขนาดมาตรการใหญ่พอสมควร เพื่อเรียกความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งและพร้อมที่จะดูแลประชาชน

“เรื่องการแจกเงินมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าใช้งบ 1 แสนล้านบาท เป็นความเข้าใจคาดเคลื่อน เพราะเรื่องแจกเงินเป็นเพียงหนึ่งในมาตรการทั้งหมดวงเงินหลายแสนบ้านบาทที่จะนำเสนอต่อครม.เศรษฐกิจ แต่สุดท้ายต้องอยู่ที่ว่าที่ประชุมเห็นด้วยหรือไม่ หรือมีความเห็นเพิ่มเติมอย่างไร ซึ่งที่ประชุมอาจจะไม่เห็นชอบแนวทางนี้ก็ได้”นายลวรณ กล่าว

นายลวรณ กล่าวว่า ทั้งนี้ในต่างประเทศมีมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโควิด-19 ระบาด หลายประเทศมีมาตรการแจกเงิน เช่น ฮ่องกงแจกประชาชน 7 ล้านคน คนละ 1 หมื่นดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 40,500 บาท ส่วนสิงคโปร์แจกเงินให้กับประชาชนอายุ 21 ปีขึ้นไประหว่าง 100-300 เหรียญฮ่องกงตามระดับรายได้ หรือประมาณ 3,000-7,000 บาท ดังนั้นหากไทยจะใช้แนวทางดังกล่าวสามารถทำได้เช่นกัน เพราะใช้ตำราทางเศรษฐศาสตร์เล่มเดียวกัน

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

นายลวรณ กล่าวว่า สำหรับวงเงินนำมาใช้นั้น สำนักงบประมาณจะรายงานถึงตัวเลขโดยตรงต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี  ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งจากงบกลาง และเงินกู้สถาบันการเงินของรัฐ ไม่เกิน 30% ของงบรายจ่าย เพื่อมาดูแลเศรษฐกิจ ตามวินัยพรบ.วินัยทางการเงินการคลัง อย่างไรก็ตามคงยังไม่สามารถระบุวงเงินที่ชัดเจนได้ว่าจะใช้เท่าใด เพราะกระทรวงการคลังเพียงแค่เสนอแนวทาง หลังจากนั้นต้องดูว่าที่ประชุมครม.เศรษฐกิจจะมีความเห็นเป็นอย่างไร หลังจากนั้นจึงจะสรุปวงเงินได้

นายลวรณกล่าวว่า มาตรการเสนอด้านเศรษฐกิจเป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลใช้ดูแลประชาชน ส่วนด้านอื่นมีกระทรวงอื่น เช่นกระทวงสาธารณสุขที่ดูแลและเยียวยาผู้ป่วย ดังนั้นอยากให้แยกส่วน ไม่ใช่พอเสนออะไรออกไปรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์

นายลวรณ กล่าวว่า ส่วนกรณี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีนี้เหลือ 0.5% นั้นเป็นการประเมินในสถานการณ์ว่าหากรัฐไม่ได้มีมาตรการหรือการช่วยเหลืออะไรออกมา ซึ่งจะประเมินเท่าไหร่ก็ได้ เพราะเมื่อประเมินยิ่งต่ำก็ได้พื้นที่ข่าว ดังนั้นเชื่อว่าเมื่อรัฐออกมาตรการชุดนี้ น่าจะมีการปรับตัวเลขจีดีพีให้เพิ่มขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง