รีเซต

TOP ฟื้นตามโบรกคาด แนะ "ซื้อ" เป้า 58-62 บ.

TOP ฟื้นตามโบรกคาด แนะ "ซื้อ" เป้า 58-62 บ.
ทันหุ้น
10 พฤษภาคม 2566 ( 16:55 )
80

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 กำไรสุทธิ 4,554 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่โบรกเกอร์คาด ภาพรวมธุรกิจกลุ่มไทยออยล์ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/65 ผู้บริหารหวังปี 66 สถานการณ์ฟื้นตัวกลับไปสู่ยุคก่อนโควิด โบรกเกอร์แนะนำ “ซื้อ”

 

นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า ไตรมาส 1/2566 กลุ่มไทยออยล์ มีกำไรสุทธิ 4,554 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนจากภาพรวมธุรกิจที่ดีขึ้น และราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากราคาเฉลี่ย ณ ไตรมาส 4/2565หลังจากตลาดคลายความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบตึงตัว ประกอบกับความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ ทำให้บริษัทฯ ยังต้องรับรู้ผลขาดทุนราคาสต็อกน้ำมัน

 

บล.พาย คงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ลดมูลค่าพื้นฐานลง 6% จาก 68.00 บาท เป็น 64.00 บาท หลังจากปรับลดประมาณการกำไรที่มีการปรับกำไรขั้นต้นเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์ (GIM) ในปี 66

 

บล.พาย คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ที่ 4.4 พันล้านบาท โตแข็งแกร่งจากกำไร 146 ล้านบาทในไตรมาส 4/65 หลังจากมีส่วนแบ่งธุรกิจโรงกลั่นและปีโตรเคมีที่ดีขึ้น รวมถึงขาดทุนสต๊อกที่น้อยลง ขณะที่คาดว่าค่าการกลั่นจะอ่อนตัวในไตรมาส 2/66 เพราะอุปทานล้นตลาดและความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย แต่ราคาหุ้นปัจจุบันที่ 0.7x PBV'23E หรือต่ำ -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปีสะท้อน downside ไม่มาก แถมยังมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าดึงดูดในระดับ 6.0% ในปี 66-67

 

นายบัณฑิต กล่าวว่า ส่วนต่างราคาน้ำมันดิบที่ใช้กลั่นจริงเทียบกับราคาน้ำมันดิบดูไบ (Crude Premium) ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญได้ปรับลดลงตาม ทำให้ธุรกิจการกลั่นยังมีผลการดำเนินงานที่ดี ธุรกิจอะโรเมติกส์ปรับตัวดีขึ้นจากอุปสงค์ในภูมิภาคเอเชียปรับตัวสูงขึ้น หลังประเทศจีนมีนโยบายเปิดประเทศและยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ และธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน มีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากอัตราการเดินเครื่องเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ในไตรมาส 4/2565 แล้วเสร็จ ในขณะที่ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาดมีอัตรากำไรขั้นต้นลดลง เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศปรับตัวลดลง ส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันอยู่ที่ 11.8 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

 

นายบัณฑิต กล่าวว่า “ภาพรวมธุรกิจกลุ่มไทยออยล์ ปี 2566 คาดว่า จะปรับตัวสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ของประเทศจีนที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันมีแนวโน้มลดความตึงตัวลง เนื่องจากประเทศรัสเซียสามารถส่งออกน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปได้ใกล้เคียงกับระดับปกติ ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงต่อภาวะชะลอตัว ทั้งนี้ ไทยออยล์ยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างผลการดำเนินงานที่มั่นคงต่อไป”

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง