วัคซีนหมดอายุไม่จริง! สธ.ยืนยันส่งตามออเดอร์จังหวัด หากไม่พร้อมปฏิเสธได้
จากกรณีการกระจายวัคซีนโควิด-19 ไปตามหน่วยสาธารณสุขประจำจังหวัด เพื่อกระจายต่อไป รพ.สต. นั้น ล่าสุด วันนี้ (7 มิ.ย.65) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากการกระจายวัคซีนโควิด-19 ลงไปยังพื้นที่ พบว่า มีประชาชนไม่มาฉีด จนอาจจะมีวัคซีนหมดอายุ ซึ่งก็เข้าสู่กระบวนการทำลายเวชภัณธ์ ตามข้อปฏิบัติ แต่ "ยืนยันตอนนี้วัคซีนยังไม่หมดอายุ"
ส่วนการทำลายวัคซีนโควิด-19 ที่หมดอายุ เหมือนการทำลายเวชภัณฑ์ยาอื่นๆ ทั่วไป โดยแต่ละพื้นที่จะมีขั้นตอนการดำเนินการอยู่แล้ว ยืนยันวัคซีนที่จัดส่งไปยังพื้นที่ ยังไม่หมดอายุ และไม่ได้มีเพียงวัคซีนซิโนแวคเท่านั้น มีแอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ ด้วย เบื้องต้นวัคซีนมีอายุอยู่ 6 เดือน ถึง 1 ปี
โดยการจัดส่งวัคซีนกรมควบคุมโรคจะจัดส่งไปยังส่วนกลางที่สาธารณสุขจังหวัดเป็นคนบริหารจัดการส่งต่อไปยัง รพ.สต.โดยการจัดส่งวัคซีนนั้น ทั้งหมดเป็นไปตามการร้องขอมาในแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ หากมี รพ.สต.ไหนที่พบวัคซีนล้นตู้ ขอให้แจ้งมาที่กรมควบคุมโรค เพื่อจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบในพื้นที่ และสอบถามกับสาธารณสุขจังหวัดถึงแผนการกระจายวัคซีน
สำหรับสาเหตุการที่จัดส่งวัคซีนลงไปเพิ่มเติม นั้น นพ.โอกาส กล่าวว่า เนื่องจากการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นยังไม่ครอบคลุม โดยตอนนี้ภาพรวมทั่วประเทศอยู่ที่ ร้อยละ 40 จากที่ตั้งเป้าต้องครอบคลุมให้ได้ร้อยละ 60 โดยเหลืออีก 16 ล้านคน ที่ยังต้องรับเข็มกระตุ้น
"วัคซีนที่หมดอายุอาจจะมีบ้าง ซึ่งรายละเอียดก็ต้องสอบถามไปที่จังหวัด เพราะว่าวัคซีนที่เราส่งไปยังไม่หมดอายุ สามารถฉีดได้ เดี๋ยวจะเข้าใจว่าวัคซีนหมดอายุแล้วไม่มาฉีดกัน จึงต้องขอให้มาฉีดวัคซีนกันด้วย
อย่างไรก็ตาม วัคซีนก็เหมือนเวชภัณฑ์ ยา ต่างๆ ที่มีวันหมดอายุได้ ซึ่งเมื่อหมดอายุก็จะมีการทำลายตามระเบียบต่อไป เป็นเรื่องปกติ
ส่วนที่ระบุว่ามีวัคซีนซิโนแวคเหลือจำนวนมากกว่า 16 ล้านโดส นั้น ขอชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เพราะ 16 ล้านโดส นั้น มีวัคซีนหลายยี่ห้อ ส่วนใหญ่เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ ส่วนซิโนแวคเหลือไม่ถึงล้านโดส" นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ส่วนแผนสำรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ปีหน้าไทยได้เตรียมไว้แล้ว หากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศว่าต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ทุกปี ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีการเตรียมพูดคุยกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนไว้เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ เรื่องการผ่อนมาตรการโควิด-19 ให้ประชาชนสามารถถอดหน้ากากอนามัยได้นั้น เบื้องต้นในที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดแห่งชาติ ได้มีการอภิปราย แต่ยังไม่มีข้อสรุป ยังต้องปฏิบัติตามเดิมก่อน รอที่ประชุม ศบค.พิจารณา เพื่อจะเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป.
ภาพจาก TNN ONLINE