ธ.ก.ส. VS ออมสิน เทียบเงื่อนไขสินเชื่อสู้ภัยโควิด-19
ในช่วงเวลาที่สถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนัก ทำให้ทั้งภาคธุรกิจต่างๆ รวมถึงมนุษย์เงินเดือนต้องพบปัญหาทางสภาพการเงิน ทำให้ภาครัฐเริ่มมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโควิดระลอกใหม่ ด้วยการปล่อยสินเชื่อบรรเทาความเดือดร้อนจาก 2 ธนาคารใหญ่ ได้แก่ ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
วันนี้ TrueID พร้อมกางเงื่อนไขการสินเชื่อสู้ภัยโควิด-19 จากทั้ง 2 ธนาคาร เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่าและพิจารณาความเหมาะสมก่อนตัดสินใจกู้สินเชื่อ
Highlight
- เงินกู้สินเชื่อทั้งสองธนาคารวงเงินไม่เกิน 10,000 บาท ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก ระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี มีอัตราดอกเบี้ยคงที่
- สินเชื่อจากธนาคารออมสินเหมาะกับผู้ประกอบการหรือผู้มีรายได้จากเอกชน ส่วนสินเชื่อจากธ.ก.ส.เหมาะกับเกษตรกร หรือกลุ่มชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19
- ธ.ก.ส. มีทั้งสินเชื่อและพักชำระหนี้ต้นเงินที่ถึงงวดชำระให้กับเกษตรกร ให้เลือกตามความเหมาะสม
ธนาคารออมสิน
ชื่อสินเชื่อ : สินเชื่อสู้ภัย COVID-19
วงเงินให้กู้ : รายละ 10,000 บาท
อัตราดอกเบี้ยคงที่ : 0.35% ต่อเดือน
ระยะเวลาชำระเงินกู้ : ไม่เกิน 3 ปี ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก
ระยะเวลาโครงการ : 13 พ.ค.- 31 ธ.ค. 2564
ช่องทางการกู้ : แอป MyMo
คุณสมบัติผู้กู้
1.ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
2.ผู้ประกอบการรายย่อย
3.ผู้มีรายได้ประจำของหน่วยงานเอกชนที่ได้รับผลกระทบกระทบจาก COVID-19
4.มีสัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป
5.ไม่เป็นผู้มีรายได้ประจำจากภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ
สินเชื่อสู้ภัย COVID-19 จากออมสิน แบ่งเป็น 3 เฟส
เฟส 1 วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 ช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ลูกค้าธนาคารมากกว่า 9 ล้านคนในพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี สมุทรปราการ และเชียงใหม่
เฟสที่ 2 วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ขยายความช่วยเหลือครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
เฟส 3 วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ลูกค้ากลุ่มอื่นที่ไม่มีแอป MyMo แต่สนใจเข้าร่วมโครงการ กำหนดสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ หรือจนกว่าจะครบจำนวนวงเงินโครงการ
หมายเหตุ ผู้กู้ต้องเป็นลูกค้าที่ดาวน์โหลดและใช้บริการแอป MyMo อยู่ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2564
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ชื่อสินเชื่อ : สินเชื่อสู้ภัย COVID-19
วงเงินให้กู้ : รายละ 10,000 บาท
อัตราดอกเบี้ยคงที่ : 0.35% ต่อเดือน
ระยะเวลาชำระเงินกู้ : ชำระหนี้เป็นรายเดือน ไม่เกิน 3 ปี โดยปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก
ระยะเวลาโครงการ : ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 2564
คุณสมบัติ
1.เกษตรกรรายย่อย
2.ลูกจ้างภาคการเกษตร
3.มีสัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป
4.มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายฉุกเฉิน
5.เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID – 19
เงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อ
1.ตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร โดยใช้ผลคะแนนพิจารณาผ่อนปรนจากสินเชื่อปกติของธนาคาร
2.ต้องไม่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) หรือต้องมีสถานะปกติ
3.ไม่ต้องใช้หลักประกัน
ช่องทางการกู้
1. LINE Official BAAC Family
2. เว็บไซต์ www.baac.or.th
3. Call Center 02-555-0555
นอกจากเปิดสินเชื่อแล้ว ธ.ก.ส. ยังมีพักชำระหนี้ต้นเงินที่ถึงงวดชำระให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการและสถาบันเกษตรกรตามความสมัครใจ เพื่อคลายความกังวลใจและลดภาระการชำระหนี้เป็นการชั่วคราวให้แก่ลูกหนี้ โดยลูกหนี้สามารถนำเงินงวดที่จะต้องชำระหนี้ไปเป็นสภาพคล่องในการดำเนินชีวิตประจำวัน และการประกอบธุรกิจ
ธ.ก.ส.พักชำระหนี้ต้นเงิน
คุณสมบัติ
1.เกษตรกรและบุคคล
2.นิติบุคคลสหกรณ์ (ไม่รวมสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ)
3.กลุ่มเกษตรกร กลุ่มบุคคล
4.กองทุนหมู่บ้านหรือชุมชนและองค์กร
เงื่อนไขการพิจารณาพักชำระหนี้
1.การพักชำระหนี้จะพิจารณาจากการกำหนดงวดชำระหนี้ตามศักยภาพของเกษตรกร บุคคล สถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบการ และนิติบุคคล ซึ่งจะพักชำระต้นเงินออกไป 6 เดือนถึง 1 ปี นับจากงวดที่ถึงกำหนดชำระเดิม และเป็นไปตามความสมัครใจของลูกค้า โดยลูกค้าต้องชำระเพียงดอกเบี้ยเท่านั้น
2.มีสัญญาเงินกู้และมีต้นเงินคงเป็นหนี้ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2564 และเป็นหนี้ที่ถึงกำหนดชำระตั้งแต่งวดเดือนเมษายน 2564 เป็นต้นไป
3.ต้องไม่เป็นหนี้ตามโครงการนโยบายรัฐ หรือโครงการที่ได้รับการช่วยเหลือหรือมีเงื่อนไขตามมาตรการอื่นๆ
4.ขยายเวลาชำระเงินต้น โดยไม่ขยายเวลาชำระดอกเบี้ยเงินกู้
ช่องทางการติดต่อ
1. LINE Official BAAC Family
2. เว็บไซต์ www.baac.or.th
3. Call Center 02-555-0555
ข้อมูลจาก กระทรวงการคลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง