วิธีรับมือหากถูกคุกคามทางเพศ จำไว้การคุกคามทางเพศไม่ใช่ความผิดของผู้ถูกกระทำ
การคุกคามทางเพศเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่จำกัดเพศ อายุ หรือสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงาน สถานศึกษา พื้นที่สาธารณะ หรือบนโลกออนไลน์ การรับมืออย่างถูกต้องและการเข้าถึงความช่วยเหลือที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องสิทธิ ความปลอดภัย และสุขภาพจิตของผู้ถูกกระทำ
การคุกคามทางเพศคืออะไร
องค์การอนามัยโลกและองค์การสหประชาชาติให้คำจำกัดความว่า การคุกคามทางเพศหมายถึงพฤติกรรมทางเพศที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งทำให้ผู้ถูกกระทำรู้สึกไม่สบายใจ อับอาย หวาดกลัว หรือถูกคุกคาม พฤติกรรมดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ทั้งทางคำพูด การกระทำ การสัมผัส การแสดงท่าทาง หรือผ่านสื่อดิจิทัล
ตัวอย่างของการคุกคามทางเพศ ได้แก่ การแสดงความคิดเห็นทางเพศที่ไม่เหมาะสม การจ้องมองอย่างคุกคาม การส่งข้อความหรือภาพลามก การแตะต้องร่างกายโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือการใช้อำนาจกดดันเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางเพศ
สิ่งที่ควรทำทันทีเมื่อเผชิญการคุกคาม
หากอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัย ควรแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าพฤติกรรมนั้นไม่เป็นที่ยอมรับ การพูดปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา เช่น “หยุด” หรือ “ฉันไม่ยินยอม” อาจช่วยยุติสถานการณ์ได้ หากรู้สึกไม่ปลอดภัย ควรออกจากพื้นที่นั้นและหาความช่วยเหลือจากบุคคลใกล้ตัวหรือเจ้าหน้าที่ทันที
การบันทึกหลักฐานเป็นสิ่งสำคัญ
ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนแนะนำให้บันทึกรายละเอียดของเหตุการณ์ เช่น วัน เวลา สถานที่ ลักษณะการคุกคาม ชื่อพยาน รวมถึงเก็บหลักฐาน เช่น ข้อความ แชต อีเมล หรือภาพถ่าย หลักฐานเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งหากต้องการรายงานเหตุการณ์หรือดำเนินการทางกฎหมายในภายหลัง
พูดคุยและขอความช่วยเหลือ
การคุกคามทางเพศไม่ใช่ความผิดของผู้ถูกกระทำ การพูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้ เช่น เพื่อน ครอบครัว หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต สามารถช่วยลดความเครียดและความรู้สึกโดดเดี่ยวได้ องค์การอนามัยโลกเน้นย้ำว่าการได้รับการสนับสนุนทางจิตใจตั้งแต่ระยะแรกช่วยลดผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพจิตได้
การรายงานและการใช้สิทธิทางกฎหมาย
ในกรณีที่การคุกคามเกิดขึ้นในที่ทำงานหรือสถานศึกษา ควรรายงานต่อหน่วยงานหรือผู้รับผิดชอบตามช่องทางที่กำหนดไว้ หากเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ผู้ถูกกระทำมีสิทธิแจ้งความหรือขอคำปรึกษาทางกฎหมาย องค์การสหประชาชาติและ UN Women ระบุว่าการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ถูกคุกคามทางเพศ
การดูแลสุขภาพจิตของตนเอง
ผลกระทบจากการคุกคามทางเพศอาจไม่ได้จบลงเมื่อเหตุการณ์สิ้นสุดลง ผู้ถูกกระทำอาจเผชิญความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า หรืออาการเครียดหลังเหตุการณ์รุนแรง การปรึกษานักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเป็นแนวทางที่ได้รับการแนะนำจากองค์การอนามัยโลก เพื่อช่วยฟื้นฟูความรู้สึกปลอดภัยและความมั่นคงทางอารมณ์
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้